กรมควบคุมโรคสรุปเคสเด็กเมียนมาติดโควิด-19 หลังออกจากไทย ผู้สัมผัสรวม 146 ราย ไม่พบติดเชื้อ
วันนี้ (21 กันยายน) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กรณีเด็ก 2 ขวบ ชาวเมียนมา ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กันยายน
ผลการดำเนินงาน ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค โดยกองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จ.สระบุรี (สคร.4 จ.สระบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จ.นครราชสีมา (สคร.9 จ.นครราชสีมา) ประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และ สสจ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเคยทำงานหรือเคยอาศัยกับครอบครัวนี้ทันที เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR
รายงานผลวันที่ 20 กันยายน
1.ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้สัมผัสรวมจำนวน 70 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่อาศัยในแคมป์เดียวกัน จำนวน 16 ราย และกลุ่มผู้สัมผัสที่อยู่ในแคมป์อื่นอีก 2 แคมป์ จำนวน 54 ราย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ
2.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีผู้สัมผัสรวมจำนวน 76 ราย แยกเป็นคนไทย 16 ราย และต่างด้าว 60 ราย ผลการตรวจทางห้องแล็บ ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ
รวมผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกสถานที่ในกรณีดังกล่าว จำนวน 146 ราย ผลตรวจทางห้องแล็บทั้งหมดทุกรายให้ผลเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
สรุป เด็กที่ติดเชื้อจากการตรวจพบของเมียนมา ยังไม่พบหลักฐานแหล่งที่ติดเชื้อที่ในประเทศไทย ทั้งที่พักและที่ทำงานของผู้ปกครอง จึงมีโอกาสน้อยที่เด็กจะเกิดการติดเชื้อในที่พักแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ อาจมีโอกาสเกิดการติดเชื้อระหว่างการเดินทางกลับบ้าน ทั้งในประเทศไทย หรือขณะอยู่ในประเทศเมียนมา ช่วงระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้ตรวจจับได้ทันท่วงทีและควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
คำแนะนำสำหรับประชาชน สธ. โดยกรมควบคุมโรค หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเหมาะสม และได้แนะนำประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังอาการและปฏิบัติตัวในการป้องกันโรค ต่อไป จึงขอให้ทุกคนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีระบบเข้มแข็ง และขอให้ประชาชนยังคงดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเช่นเดิม “สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422