ป่าไม้-ทหารพราน ปะทะเดือด กองกำลังลักลอบตัดตะเคียนทอง จับผู้ต้องหาได้ จนท.ถูกยิงบาดเจ็บ(ชมคลิป)

ป่าไม้-ทหารพราน ปะทะ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ลักลอบตัดตะเคียนทอง จับผู้ต้องหาได้ จนท.ถูกยิงบาดเจ็บ

วันที่ 28 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับ ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย 2601 ได้ร่วมกันลาดตระเวนชายแดน พบการลักลอบตัดไม้ตะเคียน บริเวณทิศตะวันตกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ทับซ้อนเขตป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี “ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา” ท้องที่ตำบลดงรัก อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พิกัด UTM 48 P 415026 E1588700 N ห่างจากชายแดนไทย – กัมพูชา ประมาณ 200 เมตร จึงมีการยิงปะทะกับ กลุ่มตัดไม้ เป็นเหตุให้ ร.ท. ศิวะเทพ บุญล้อม ถูกยิงบริเวณหลังด้านซ้าย หลังจากนั้น มีกองกำลังกลุ่มลักลอบตัดไม้ เข้ามาสมทบ โดยมาพร้อมกับเสียงรถยนต์ และ เสียงปืน ขึ้นฟ้า ซึ่ง การเสริมกำลังของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จนทำให้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา และ หน่วยทหารเฉพาะกิจที่ 3 เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย 2601 ต้องถอยร่น ออกมาจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมชาวกัมพูชา ได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังว่า นายแง็น. โสแว้ย อายุ 50 ปี พร้อมอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง ไม้ตะเคียนทอง จำนวน 1 ต้น ถูกตัดโค่นและแปรรูปด้วยเลื่อยโช่ยนต์ ทั้งหมด 35 ท่อน/แผ่น ปริมาตร 2.83 ลูกบาศก์เมตร

 

Advertisement

ต่อมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์(สบ.อ.) ที่ 9 อุบลราชธานี และนายสาธิต พันธุมาศ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ได้ลงพื้นที่สอบสวน ผู้ต้องหา ชาวกัมพูชา ด้วยตนเอง ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า ไม่ได้เป็น คนตัดโคนไม้ เลื่อยไม้ และ ไม่ได้ใช้อาวุธปืน อาก้า รวมทั้ง ไม่ได้ยิงเจ้าหน้าที่ และไม่ใช่ปืนของตนเอง โดยอ้างว่า ตนรับจ้างมาแบกไม้ เท่านั้น และ ไม่ได้เป็นคนโค่นไม้ตะเคียน แต่อย่างใด ในขณะที่สอบสวน โดยสอบสวนผ่านล่าม ซึ่งผู้ต้องหา พยายาม บ่ายเบี่ยงอ้างว่า ไม่ใช่ทหารกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ต่อมาผู้ต้องหา ได้ให้การว่า มากัน 5 คน ใน 5 คน นั้นมี 2 คนเป็นทหารกัมพูชามีหน้าที่ คอยคุ้มกัน อีก 2 คน มีหน้าที่โค่นไม้และแปรรูปไม้ ส่วนตน มีหน้าที่แบกไม้

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อผู้ต้องหาให้การเช่นนี้ ตนได้ สั่งการให้ เจ้าหน้าที่นำเสื้อและกางเกง มาเปลี่ยนให้ผู้ต้องหา เพื่อจะนำเสื้อผ้าของผู้ต้องหา นำไปพิสูจน์หาหลักฐาน คราบน้ำมัน และ ขี้เลื่อย ในเสื้อผ้าเพื่อ นำเป็นพยานหลักฐาน ให้ได้ว่า คราบน้ำมัน เศษขี้เลื่อย และ รอยนิ้วมือ ของผู้ต้องหา นั้น ตรงกับ น้ำมันเครื่องของเลื่อยโซ่ยนต์ และที่สำคัญ ลายนิ้วมือ ในปืนอาก้า นี้ ตรงกับผู้ต้องหาหรือไม่ เพราะ ผู้ต้องหา อ้างว่าตนไม่ได้โคนไม้ ตัดไม้ มาแค่แบกไม้ เพื่อให้พ้นข้อหา ทำไม้ ซึ่งข้อหานี้ มีโทษหนัก และ ตรวจสอบลายนิ้วมือในอาวุธปืนสงคราม เพื่อให้ทราบว่า ปืนอาก้ากระบอกดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ใช้เอง หรือไม่ ส่วน เจ้าหน้าที่ทหาร 1 นายที่บาดเจ็บถูกกระสุนปืนอาก้า เข้าด้านหลัง 1 นัด เข้าบริเวณ ด้านซ้าย กระสุนทะลุด้านหน้า ผ่านระหว่าง แผ่นหลังกับช่องแขน ถูกส่งตัวถึง โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ วารินชำราบ จ อุบลราชธานี อาการปลอดภัยแล้ว

Advertisement

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 28 ตุลาคม พันเอกลิขิต สมานมิตร ผบ. ฉก.3 จะนำตัวผู้ต้องหา และนำอาวุธปืน อาก้า ซึ่งได้ขออายัดตัวผู้ต้องหาและของกลาง ต่อพนักงานสอบสวน โดยใช้อำนาจทางการทหาร เพื่อขยายผล ให้ผู้ต้องหานำชี้หาตัวผู้ยิง ร.ท. ศิวะเทพ บุญล้อม จนได้รับบาดเจ็บ และเก็บหลักฐาน ในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม รวมทั้ง นำกำลัง เจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะเข้าไป ตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง และอาจจะต้องมีการเจรจาต่อรอง กับ ทหารหน่วยความมั่นคงของกัมพูชา เพื่อให้สั่งห้าม มิให้ มีการตัดไม้ และล่าสัตว์ป่า ในเขตพรมแดน ที่ยังไม่ได้ทำเขตแดนอีก และได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11,48,69, พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53,55(5) พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ,พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490, ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image