ศปค.สธ.เห็นชอบลดเวลากักตัว ปท.เสี่ยงต่ำ 10 วัน ปท.เสี่ยงสูงคงเดิม 14 วัน

ศปค.สธ.เห็นชอบลดเวลากักตัว ปท.เสี่ยงต่ำ 10 วัน ปท.เสี่ยงสูงคงเดิม 14 วัน

วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2563) ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นพ.เกียรติภูมิ วงค์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ศปค.สธ.) ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาถึงการลดเวลากักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จาก 14 เหลือ 10 วัน ว่า กรณีการลดวันกักตัวจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลด้านวิชาการทางการแพทย์มีรายงานพบว่า การกักตัว 10 วัน และ 14 วัน ไม่แตกต่างกัน จึงเป็นแนวคิดลดวันกักตัวตามความเสี่ยงประเทศ

“โดยการพิจารณาความเสี่ยงเมื่อเทียบกับประเทศไทย กรณีประเทศที่ไม่มีความเสี่ยง หรือเสี่ยงเท่ากับประเทศไทย โดยหลักการเมื่อเข้ามาก็เหมือนคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว เป็นลักษณะ safety to safety” นพ.เกียรติภูมิ กล่าวและว่า ที่ประชุม ศปค.สธ. เห็นชอบมาตรการลดวันกักตัว สำหรับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ (Special Tourist Visa) หรือ STV ที่เดินทางเข้าไทย โดยจากการศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ เรื่องการลดการกักตัวจาก 10 หรือ 14 วัน ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่ควรทำกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือเท่ากับประเทศไทย โดยการเทียบว่าประเทศไหน มีความเสี่ยงสูง หรือ ต่ำกว่านั้น ให้ดูจากเกณฑ์อัตราป่วย และควบคุมโรคของแต่ละประเทศ เทียบเคียงกับไทย ซึ่งประเทศที่มีความเสี่ยงเท่ากับหรือมากกว่าไทยเล็กน้อย ก็จะพิจารณาให้กักตัวได้ในจำนวน 10 วัน แต่หากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงกว่าไทย นั้นยังคงให้มีการกักตัว 14 วันเท่าเดิม

นพ.เกียรติภูมิ ยังกล่าวว่า การตรวจเชื้อโควิด-19 เดิม จะตรวจในวันที่ 1-3, 7-9 และ 11 ของการกักตัว ซึ่งพบว่าการตรวจเจอเชื้อจะพบใน 10 วันแรกที่เป็นบวก และโอกาสที่จะเชื้อหลุดรอดจากหลัง 10 วัน ที่เป็นบวก พบว่า ใน 1 ล้านราย จะพบผู้ป่วยเพียงเฉลี่ย 1.5 รายเท่านั้น ส่วนการกักตัว 14 วัน โอกาสที่เชื้อโควิด-19 หลุดรอดแค่ 0.3 ราย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการลดการกักตัวนี้ ไม่ได้หมายว่า นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ แต่จะต้องดูความพร้อมของพื้นที่ มีตั้งแต่ความพร้อมของสถานที่ การควบคุมโรค และมีสถานพยาบาล ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ต้องยินยอมด้วย

“เบื้องต้น มี 10 จังหวัดที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และยังจะมีสายรัดข้อมือ พร้อมแอพพลิเคชั่นไว้ติดตามตัวด้วย เช่น ชลบุรี บุรีรัมย์ ฯลฯ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการทบทวนมาตรการในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine) หลังจากมีหญิงฝรั่งเศสติดโควิด-19 จะต้องมีมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว ทั้งนี้จะมีการเสนอเรื่องต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ในการประชุมนัดหน้า” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image