กทม.จ่อใช้ กม.เข้มจัดการพวกทิ้งไม่เป็นที่ เพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บขยะ
วันนี้ (7 ธันวาคม 2563) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ในที่ประชุม สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.รายงานผลการดำเนินการตามนโยบาย “ทิ้งเป็นที่ เก็บเป็นเวลา” ซึ่งปัจจุบันพบว่า ประชาชนยังมีการทิ้งขยะนอกบริเวณที่จัดไว้ให้ อีกทั้งนำขยะออกมาทิ้งไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด โดยมีทั้งขยะปกติและขยะชิ้นใหญ่ ส่งผลให้สำนักงานเขตต้องเพิ่มความถี่ในการจัดเก็บขยะและล้างทำความสะอาดพื้นที่
“จึงเห็นควรให้มีการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินตามนโยบายเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 1.บังคับใช้กฎหมาย โดยให้สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต จับปรับผู้ทิ้งขยะนอกบริเวณที่กำหนด และแบ่งค่าปรับแก่ผู้แจ้งเบาะแส และใช้กล้องวงจรปิดในการตรวจสอบผู้กระทำผิด 2.เพิ่มรอบการจัดเก็บขยะ โดยมีการสำรวจปริมาณขยะตกค้างในพื้นที่ และเพิ่มรอบการจัดเก็บให้สอดคล้องกับปริมาณขยะ 3.มีการประชาสัมพันธ์แนวทางการบังคับใช้กฎหมายในการทิ้งขยะนอกบริเวณที่กำหนด ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม ออนไลน์ และสื่อต่างๆ เพิ่มมากขึ้น” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทิ้งขยะลงบนที่สาธารณะ นอกภาชนะ หรือนอกที่ที่ราชการส่วนท้องถิ่นได้จัดไว้ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนกรณีทิ้งลงในทางน้ำ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2563 มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวม 724 ราย ยอดปรับทั้งสิ้น 1,132,100 บาท แบ่งเป็น กรณีทิ้งลงบนถนนที่สาธารณะ 638 ราย ยอดปรับ 887,100 บาท กรณีทิ้งลงในทางน้ำ 86 ราย ยอดปรับ 245,000 บาท
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จะมีแนวทางดำเนินการด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ การออกคำสั่งให้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจผู้รับผิดชอบแต่ละเขตกวดขันผู้ทิ้งขยะนอกบริเวณที่กำหนด นอกเหนือจากภารกิจการกวดขันกรณีผู้ค้าและผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า และการใช้แอพพลิเคชันเพื่อแจ้งจุดทิ้งขยะ และเวลาที่รถขยะเข้าจัดเก็บ โดยสแกนคิวอาร์ โค้ด ได้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะ รวมถึงในอนาคตอาจมีการดำเนินการแก้ไขกฎหมาย เพื่อจำกัดเวลาการทิ้งขยะของประชาชน มีการใช้/การเก็บคอกกั้นขยะตามช่วงเวลา โดยมีป้ายประชาสัมพันธ์ช่วงเวลาจัดเก็บ เพื่อให้ประชาชนทิ้งขยะตามเวลาที่ กทม.กำหนด และการระบุประเภทขยะ หรือสิ่งที่นำมาทิ้ง เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป