สธ.ชี้ยอดติดโควิด-19 รอบใหม่ เริ่มคงที่ เล็งประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่

สธ.ชี้ยอดติดโควิด-19 รอบใหม่ เริ่มคงที่ เล็งประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป และรักษาการรองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างคงที่ วันนี้รายที่ติดในไทยมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือ ไปรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) เป็นกลุ่มที่อยู่ จ.สมุทรสาคร เป็นหลัก 37 ราย อีกส่วนคือ การค้นหาในชุมชน เริ่มจากที่พบผู้ป่วยรายแรกที่ตลาดกลางกุ้ง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ทั้งนี้ การติดเชื้อใน จ.สมุทรสาคร ยังต้องติดตามใกล้ชิด เพราะมีคนมาติดต่อที่ตลาดและกลับไปพบการติดเชื้อ ซึ่งสามารถติดตามผู้สัมผัสได้แล้ว

นพ.โสภณ กล่าวว่า เมื่อมีการดูรายละเอียดตลาดกลางกุ้งตรวจแล้ว 2,052 ราย พบติดเชื้อ 901 ราย คิดเป็นร้อยละ 44 เมื่อค้นหาที่ตลาดทะเลไทย หรือชุมชนซอยเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ 2 กิโลเมตร พบอัตราการติดเชื้อต่ำลงมา คือ ร้อยละ 14 และ ร้อยละ 13 ตามลำดับ

“และเมื่อตรวจเชิงรุกไกลออกมาแถวสะพานปลา ชุมชนบ้านเอื้ออาทรท่าจีน ก็มีอัตราการติดเชื้อที่ต่ำกว่า โดยยิ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางการระบาด ก็ยิ่งมีโอกาสในการติดเชื้อน้อยลง ขณะนี้ ทีมสอบสวนควบคุมโรคไม่ติดตามผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสต่อเนื่อง หวังควบคุมให้ผู้สัมผัสไปแพร่เชื้อต่อการระบาดก็จะสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขให้ความร่วมมือตามที่มีการแจ้งให้ทราบด้วย และขอย้ำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา” ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงการติดเชื้อที่ จ.สมุทรสาคร สรุปข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม พบ 32 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 2.ฉะเชิงเทรา 3.นครปฐม 4.ปทุมธานี 5.เพชรบุรี 6.สมุทรปราการ 7.สระบุรี 8.อุตรดิตถ์ 9.เพชรบูรณ์ 10.สุพรรณบุรี 11.นครราชสีมา 12.ปราจีนบุรี 13.กระบี่ 14.ภูเก็ต 15.พระนครศรีอยุธยา 16.กำแพงเพชร 17.ขอนแก่น 18.ชัยนาท 19.สมุทรสงคราม 20.อุดรธานี 21.พิจิตร 22.นครศรีธรรมราช 23.สุราษฎร์ธานี 24.ชัยภูมิ 25.นครสวรรค์ 26.นนทบุรี 27.อ่างทอง 28.ราชบุรี 29.สงขลา 30.เลย 31.ชลบุรี และ 32.อุบลราชธานี

Advertisement

“เราจะประเมินอีก 1 สัปดาห์ ว่า หลังจากนี้จังหวัดอื่นๆ จะพบผู้ป่วยเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าหากไม่เพิ่มหรือจำกัดสถานการณ์ได้ ก็แสดงว่าพื้นที่ต่างจังหวัดควบคุมได้” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวถึงการประเมินความเสี่ยงของประชาชนกรณีพบผู้ติดเชื้อรายแรก ว่า จะมีผู้สัมผัสใกล้ชิดนับเป็นวงแรก ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ที่ผ่านมา ตรวจพบการติดเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงประมาณร้อยละ 3 ส่วนผู้สัมผัสของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะให้เฝ้าระวังสังเกตอาการ โดยสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่นในระยะ 14 วัน ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสังเกตอาการครบ 14 วันแล้ว หากไม่มีอาการก็ถือว่าปลอดภัย

“อีกวงหนึ่งคือ ผู้สัมผัสของผู้สัมผัสของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ถือว่าห่างไกลมาจากจุดที่มีผู้ติดเชื้อ กลุ่มนี้ไม่ต้องกักตัว ให้ใช้ชีวิตปกติ โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง หากมีอะไรผิดปกติก็ไปพบแพทย์ได้” นพ.โสภณ กล่าว

Advertisement

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับค่าตรวจโควิด-19 คนที่เข้าเกณฑ์เข้าข่ายถ้าเป็นคนไทยฟรีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิใดๆ ก็ตาม ส่วนกรณีคนต่างชาติถ้าอยู่ในเกณฑ์ของประกันสังคมก็ได้รับการตรวจเช่นเดียวกัน ดังนั้น กรณีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายหรือไม่มีสิทธิอะไรเลย จะเป็นภาระหน้าที่ของกรมควบคุมโรค ที่ต้องตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดสู่คนไทย การตรวจให้ได้มากที่สุดในกลุ่มเสี่ยงต้องทำให้ได้มากที่สุด โดยรวมกับหลายหน่วยงาน รวมถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีห้องปฏิบัติการ (แล็บ)  กว่า 200 แห่ง ทำงานกันเป็นเครือข่าย เมื่อ รพ.พบผู้ที่เข้าข่ายต้องได้รับการตรวจเชื้อ ก็จะต้องส่งไปที่ห้องแล็บ เวลาเรียกเก็บเงินแล็บจะเรียกเก็บเงินมาที่กรมควบคุมโรค

“ดังนั้น รพ.ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกห้องแล็บเรียกเก็บเงิน ขณะนี้ กรมควบคุมโรคได้ของบกลางไปที่รัฐบาลแล้ว อยู่ในกระบวนการขั้นตอน ซึ่งคิดว่าน่าจะได้รับความกรุณาในการจัดสรรมาให้” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการในจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าว นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้มีการเฝ้าระวังทุกจังหวัด โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีการสำรวจความเสี่ยง และตรวจหาเชื้อในกลุ่มแรงงานอย่างต่อเนื่อง เช่นที่ จ.ระนอง กำลังเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดนั้นทำได้ แต่คนที่ไป จ.สมุทรสาครต้องระวังตัว 1.ไปที่ทำงานหรือที่จำเป็นอย่าออกนอกเส้นทาง สวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่างล้างมือ หลับบ้านรีบอาบน้ำ อย่าไปคลุกคลีคนในครอบครัวมากนัก และขอให้เขียนไทม์ไลน์เอาไว้ด้วย ส่วนกรณีที่สวมเฟชชิลด์นั้นไม่ช่วยอะไร ขอให้สวมหน้ากากอนามัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image