อนุทิน เปิดงานครบเครื่องเรื่องกัญชา เผยตลาดกัญชาโลก เงินสะพัด 5 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ ประธานเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)
เปิดงาน “ครบเครื่องเรื่องกัญชา และเสน่ห์ยาสมุนไพร” เพื่อนำผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องสำอาง อาหารจากสมุนไพรไทยและกัญชา มาจัดแสดงและสาธิตวิธีการผลิต การนำไปใช้สร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพ ประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขยายโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ
นายอนุทิน กล่าวว่า สธ. โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับเครือข่ายพลังภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ได้ส่งเสริมการนำพืชเศรษฐกิจ มาบูรณาการใช้กับภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะพืชกัญชาที่นำมาใช้ทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน โดยได้มีการศึกษาวิจัย พัฒนาต่อยอดกัญชาและสมุนไพรไทย เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ แปรรูปเป็นอาหาร เครื่องสำอาง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีผู้สนใจนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท
“ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับกัญชาเกิดขึ้นหลายงาน แสดงให้เห็นถึงนโยบายกัญชาอย่างก้าวกระโดด เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ จ.บุรีรัมย์ ได้จัดงานมหกรรมกัญชา กัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ผมได้ไปกล่าวถึงนโยบายกัญชาในทุกมิติที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีระบาดโควิด-19 แต่นโยบายกัญชาจะถูกผลักดันต่อไป เพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับประชาชน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า หากเราใช้พืชกัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจ ก็จะช่วยเสริมสร้างรายได้ของเกษตรกร ผู้ประกอบการที่รู้จักนำส่วนของกัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งในการสร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้น ทั้งนี้ กัญชาเป็นสมุนไพรที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดกัญชาทั่วโลกมีขนาดใหญ่ มีมูลค่าถึง 5 แสนล้านบาท ดังนั้น กัญชาเป็นพืชที่ให้ประโยชน์อย่างมหาศาลกับผู้ที่ใช้อย่างเข้าใจ เป็นพืชชนิดเดียวที่สามารถใช้ทุกชิ้นส่วน เพื่อนำมาทำเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ
“ขณะนี้เรามาถึงจุดที่รัฐบาลให้การสนับสนุนพืชกัญชา กัญชง เพื่อให้เป็นทางออกของเศรษฐกิจไทย มีผู้ที่เชื่อมั่นในธุรกิจกัญชา ลงทุนเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์กัญชาเกิดขึ้นมากมาย ทั้งด้านการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เราพร้อมส่งเสริมพัฒนากัญชาอย่างครบวงจร ตลอดห่วงโซ่ ต่อยอดกัญชาเพื่อสร้างเศรษฐกิจประเทศของทุกด้าน ทั้งการท่องเที่ยวทางสุขภาพ ทางการแพทย์และการผลักดันให้เป็น โปรดักส์ แชมเปียน (Product champion) สมุนไพรของประเทศไทย” รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดงานครบเครื่องเรื่องกัญชาฯ ในครั้งนี้ เป็นการนำบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชาและสมุนไพรไทยขึ้นห้าง สร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการให้สามารถพัฒนาตนเอง ด้านนวัตกรรม การบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมที่จะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้ธุรกิจด้านการแพทย์แผนไทยเป็นแรงขับเคลื่อน
ด้าน พญ.อัมพร กล่าวถึงการจัดงานครบเครื่องเรื่องกัญชาฯ ว่า มีกิจกรรม ประกอบด้วย เวทีเสวนาวิชาการกัญชาและสมุนไพร บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบผสมผสาน นิทรรศการวิชาการผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แผนไทย และการสาธิตทำผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม, ชาชงรูปแบบต่างๆ, น้ำมันนวด เป็นต้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 มีนาคม 2564 เวลา 11.00 – 20.00 น. ที่ ศูนย์การค้า พาราไดซ์พาร์ค เขตประเวศ จึงขอเชิญชวนประชาชน นักธุรกิจ ที่สนใจ เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นโอกาสการขยายธุรกิจ เกิดความคิดสร้างสรรค์นำกัญชาและสมุนไพรไทยไปพัฒนาต่อยอด เกิดการสร้างรายได้ สร้างอาชีพต่อไป
ทั้งนี้ นายธนัญวิชญ์ เจริญสุวรรณ ผู้จัดการบริษัท HERBIS กล่าวว่า ตนรับส่วนประกอบจากพืชกัญชา คือ ใบกัญชา มาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ทำการบันทึกข้อตกลง พร้อมมีใบรับรองว่า รับใบกัญชามาจากแหล่งที่ได้รับการปลูกถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการนำใบกัญชามาแปรรูปเพื่อจำหน่ายต่อก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ สินค้าที่ทางร้านจำหน่ายจะมีเฉพาะในงานอีเว้นท์ต่างๆ ยังไม่มีหน้าร้าน โดยจะมีสินค้า 3 รูปแบบหลัก คือ ใบกัญชาอบแห้ง ชาใบกัญชา ใบกัญชาแห้งสกัดเย็นเพื่อทำเป็นชาผสมใส่ในน้ำผึ้งมะนาวโซดา
นายธนัญวิชญ์ กล่าวว่า ใบกัญชาอบแห้งของทางร้าน มีทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ 1.ใบกัญชาสด ขนาด 10 กรัม ราคา 200 บาท 2.ใบกัญชาแห้ง ขนาด 20 กรัม ราคา 600 บาท 3.ชาใบกัญชาอบแห้ง ที่มีกลิ่นหอม ขนาด 5 กรัม ราคา 250 บาท และ 4.ใบกัญชาส่วนที่มีคุณภาพดีสุด ผ่านการตากแห้งอย่างดี ราคา 600 บาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขั้นตอนในการจำหน่ายให้กับลูกค้า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง นายธนัญวิชญ์ กล่าวว่า หากเป็นกรณีที่ประชาชนซื้อไปเพื่อประกอบอาหารทำอาหารเองที่บ้านในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องออกใบรับรอง แต่หากเป็นกรณีที่นำไปเพื่อประกอบอาหารในร้าน ก็จะต้องมีการคัดลอกสำเนาใบอนุญาตระหว่างร้านของเรากับม.แม่โจ้ ที่เรารับใบกัญชามา เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อใบกัญชาไปจากเราด้วย
“ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับพืชกัญชา ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถือว่าได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี อาจจะด้วยว่าเพิ่งมีกฎหมายปลดล็อกการนำส่วนต่างๆ ของกัญชา ยกเว้นช่อดอก มาใช้ประโยชน์ ทำให้คนอยากลองมาก แต่ในอนาคตที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายมากขึ้น ก็จะต้องดูสถานการณ์ของธุรกิจต่อไป” นายธนัญวิชญ์ กล่าว
