ศบค.เผยคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้างสมุทรปราการ ยังรอผลโควิด-19 อีก 400 ราย
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ย่านสุขุมวิท 117 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 17 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเพศหญิง อายุ 29 ปี ชาวกัมพูชา คนงานก่อสร้างในแคมป์ ซึ่งไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ซึ่งต่อมาทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขปรจำหมู่บ้าน (อสม.) สมุทรปราการ ได้ทำการตรวจเชิงรุกค้นหาผู้ป่วยในชุมชน จำนวนทั้งหมด 410 ราย ส่งตรวจโรงพยาบาล (รพ.) สมุทรปราการ อยู่ในระหว่างรอผลตรวจ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า รายงานสถานการณ์ล่าสุด พบว่า จากเคสที่พบเป็นรายแรกนั้นเป็นผู้ที่ไปตรวจโควิด-19 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่มีอาการ แต่ไปตรวจเพื่อต่ออายุใบอนุญาตทำงาน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 วันที่ 15 มีนาคม ได้รับการยืนยันผลเป็นบวก เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที จากนั้นทางสาธารณสุขในพื้นที่ได้ลงตรวจเชิงรุกในชุมชนทันที โดยเริ่มตั้งแต่แคมป์คนงานก่อสร้าง สุขุมวิท 117 ตรวจทั้งสิ้น 625 ราย พบผลเป็นบวก 16 ราย ซึ่งมีถึง 14 ราย ที่ไม่มีอาการ
“วันที่ 19 มีนาคม มีการตรวจเชิงรุกที่ สุขุมวิท 107 ตรวจไปอีก 584 ราย ซึ่งกลุ่มก้อนนี้ผลยังเป็น 0 จากนั้น วันที่ 20-21 มีนาคม มีการตรวจเชิงรุกในชุมชนรอบแคมป์คนงานในพื้นที่รอบสุขุมวิท 117 จำนวน 400 ราย ซึ่งยังรอผลอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อสกัดเชื้อ ไม่ให้แพร่กระจายออกไปจากกลุ่มก้อนนี้” ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวและว่า กรมควบคุมโรค พบว่า ปัจจัยเสี่ยงที่พบคือ แคมป์คนงานส่วนใหญ่ เป็นสถานที่ปิด มีความแออัด ในพื้นที่หอพักมีการใช้สิ่งของร่วมกัน ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ตู้กดน้ำดื่ม เป็นต้น และมีพนักงานบางคนฝ่าฝืนมาตรการบริษัทไปสังสรรค์ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้พิจารณาและให้ออกแล้ว โดยมีการพยายามที่จะขอความร่วมมือ เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ศบค. จะได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับกรณีกรุงเทพมหานคร ในส่วนของสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สวนพลูและบางเขน มีการตรวจวันที่ 16-20 มีนาคม จำนวน 1,188 ราย พบผลบวก 98 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.2 ล่าสุดมีผลการคัดกรองเชิงรุกอีก 297 ราย ต้องรอติดตามการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งนี้ สถานกักกันทั้ง 2 แห่ง ได้งดรับผู้ต้องกักรายใหม่ แยกผู้ติดเชื้อไม่ให้ปะปน และตรวจเจ้าหน้าที่ทุกรายไม่พบเชื้อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เตรียมโรงพยาบาลสนาม 120 เตียง ฉีดวัคซีนเจ้าหน้าที่ 70 ราย
“นอกจากนี้ ยังมีรายงานการติดเชื้อที่พระราม 2 – บางขุนเทียน ที่คล้ายกรณีแคมป์คนงาน คือ พบแรงงาน เมียนมา 2 ราย ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเพื่อขอวีซ่า ซึ่งไม่ได้มีอาการ โดยรายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 37 ราย เสี่ยงต่ำ 178 ราย วันที่ 19-21 มีนาคม ตรวจไปแล้ว 71 ราย เป็นคนไทย 19 ราย ลาว 1 ราย เมียนมา 51 ราย พบเชื้อ 30 ราย ซึ่งรวม 2 ราย ที่ไปตรวจโรงพยาบาลแล้วโดยสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว”พญ.อภิสมัย กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม กทม.รายงานภาพรวมว่า ขณะนี้ใน กทม.มีการตรวจเชิงรุกไปแล้วกว่า 83,000 ราย โดยเฉพาะ 6 เขตที่ติดกับ จ.สมุทรสาคร ตรวจไปแล้ว 21,458 ราย หลักๆ แล้วเป็นโรงงาน 128 แห่ง สำหรับตลาดได้มีการค้นหาเชิงรุกหมดแล้ว ขณะนี้จะเน้นไปที่ชุมชนเป็นหลัก
