ศบค. เผยวันนี้ ดับ 15 ราย พบ 1 ราย รอคิวตรวจ 3 วันดับสลด ติดเพิ่มวันนี้ 2,012 ราย
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงข่าวการระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้ผู้ป่วยใหม่ 2,012 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยใหม่ 1,893 ราย การคัดกรองเชิงรุก 108 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 11 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 61,699 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 34,402 ราย เหลือที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 27,119 ราย แบ่งเป็นใน รพ. 21,008 ราย ในรพ.สนามและอื่นๆ 6,111 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย สะสม 178 ราย อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 0.29 ขณะนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 695 ราย ผู้ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 199 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยในการระบาดระลอกเดือนเม.ย.2564 สะสม 32,836 ราย เสียชีวิตสะสม 84 ราย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 28 ก.พ. – 27 เม.ย. สะสม 1,279,713 โดส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 1,038,960 ราย และผู้ที่ได้รับครบโดส 240,753 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 15 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 11 ราย เพศหญิง 4 ราย อยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ราย เชียงใหม่ 2 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ชลบุรี 1 ราย และระนอง 1 ราย จำแนกตามโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน 9 ราย โรคหัวใจ 1 ราย โรคไขมันในเลือดสูง 4 ราย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง/หอบหืด 3 ราย โรคไตเรื้อรัง 2 ราย โรคไทรอยด์เป็นพิษ 3 ราย โรคอ้วน 4 ราย โรคสมองเสื่อม/อัลไซเมอร์ 1 ราย และปฏิเสธโรคประจำตัว 2 ราย ขณะที่ ปัจจัยเสี่ยงในการรับเชื้อ ได้แก่ สัมผัสผู้ติดเชื้อในครอบครัว 10 ราย ติดเชื้อจากที่ทำงาน 2 ราย ไปสถานบันเทิง 1 ราย สัมผัสกับเพื่อนบ้านที่ติดเชื้อ 1 ราย และสัมผัสเพื่อนที่ฟิตเนส 1 ราย
“มี 1 รายที่ปรากฎในภาพข่าว ผู้ป่วยที่เสียชีวิตในระหว่างรอคิวตรวจหาเชื้อเป็นเวลา 3 วัน และเมื่อถึงวันที่จะได้รับการตรวจพบว่ามีการเสียชีวิต หลังจากนั้นตรวจยืนยันพบผลเป็นบวก ซึ่งขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกราย” พญ.อภิสมัยกล่าว
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ภายหลังการประกาศใช้มาตรการควบคุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ให้ปิดสถานบันเทิง ต่อมาก็ขอความร่วมมือประชาชนทำงานจากที่บ้าน (Work from home) หลังจากนั้นก็ประกาศฉบับที่ 20 ตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ทิศทางของกราฟยังคงสูงอยู่ แม้ว่าจะลดลงบ้างแต่ตัวเลขยังสูง ดังนั้น เราต้องร่วมมือลดจำนวนผู้ป่วยใหม่ เพื่อรักษาเตียงให้กับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง และจำเป็น
อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกเดือนเม.ย.2564 สะสม 32,636 ราย เมื่อจำแนกพบว่า กทม. มีผู้ป่วยสะสม 10,899 ราย ปริมณฑล 4,862 ราย และจังหวัดอื่นๆ รวมอีก 16,875 ราย ทั้งนี้ ตารางแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อรายจังหวัด พบว่า หลายจังหวัดปรับเป็นสีเขียว และสีเหลือง สะท้อนว่าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะการดูแลผู้ติดเชื้อให้เข้ารับการรักษาได้ ซึ่งบางจังหวัดมี รพ.สนาม การที่ผู้ป่วยเข้าถึงการดูแลอย่างถูกต้อง ทำให้ลดการติดเชื้อใหม่ด้วย อย่างเช่น จ.สุโขทัย โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คาดการณ์จากจำนวนผู้ป่วยที่มี 100 ราย จึงเตรียมไอซียูใน 9 อำเภอ รพ.สนามและฮอสปิเทล(Hospitel) ในมหาวิทยาลัย โรงแรมในพื้นที่ด้วย
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตัวเลข 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 10,899 ราย เชียงใหม่ 3,347 ราย ชลบุรี 2,151 ราย นนทบุรี 1,466 ราย สมุทรปราการ 1,430 ราย สมุทรสาคร 829 ราย ปทุมธานี 661 ราย สุราษฎร์ธานี 573 ราย สงขลา 563 ราย และ นครปฐม 458 ราย โดยแผนที่ประเทศไทย เริ่มเห็นพื้นที่สีเหลืองมากขึ้น จากเดิมจังหวัดที่เป็นสีแดงก็ลดมาเป็นสีเหลือง ส่วนพื้นที่สีเหลืองก็กลายเป็นสีเขียวมากขึ้นเช่นกัน
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก พบรายใหม่ 830,822 ราย สะสม 149,328,858 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 14,821 ราย สะสม 3,148,781 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 104 จากเดิม 105 ขณะที่ทวีปเอเชียมีหลายประเทศที่ต้องติดตาม เช่น ญี่ปุ่น รายใหม่ 3,319 ราย สะสม 571,040 ราย มาเลเซีย 2,733 ราย สะสม 398,451 ราย และเกาหลีใต้ 511 ราย สะสม 120,673 ราย
