สธ. ยัน รพ.บุษราคัม ใช้งบสร้าง 13 ล้าน ใช้บุคลากรอาสาฯ จ่อเอาผิดเฟคนิวส์

สธ. ยัน รพ.บุษราคัม ใช้งบสร้าง 13 ล้าน ใช้บุคลากรแพทย์อาสาฯ จ่อเอาผิดเฟคนิวส์

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงมาตรฐานการบริหารจัดการและดูแลผู้ป่วยโรงพยาบาล (รพ.) บุษราคัม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า รพ.บุษราคัม มีเจตนาสร้างให้เป็นโรงพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้ ไม่ใช่ให้เป็นเพียง รพ.สนาม โดยใช้งบประมาณ 13 ล้านบาทเศษ ไม่ใช่ 200 ล้านบาท ตามที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล ซึ่งเป็นเฟคนิวส์

“สถานที่ห้องที่เราจัดไว้ มีการแยกห้องให้เป็นส่วนตัว และคนไข้ที่เข้าไปรักษาตัว มีเครื่องมือพร้อม มีเครื่องออกซิเจนสามารถเสียบได้ที่หัวเตียง คล้ายๆ กับเตียงคนไข้ใน รพ.ทั่วไป โดยเราต่อท่อออกซิเจนจากนอกอาคารเข้าไป ขณะที่หากคนไข้ที่ต้องการเครื่องออกซิเจนความดันสูง ก็สามารถดูแลได้ เรามีห้องความดันลบ” นพ.ธงชัย กล่าว

นอกจากนี้ นพ.ธงชัย กล่าวว่า ยังมีรถเอกซเรย์ระบบดิจิทัลพระราชทาน เพื่อดูแลคนไข้แต่ละคนว่ามีอาการผิดปกติ มีปอดบวมหรือไม่ เพื่อรักษาได้ที่ รพ.บุษราคัม แบบเบ็ดเสร็จ เพียงแต่ หากอาการหนักหรือรุนแรงขึ้นไปอีก ก็สามารถส่งต่อไปยัง รพ.อื่นๆ ที่มีศัยภาพสูงกว่าได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากเป็น รพ.สนาม จะทำได้เพียงการสังเกตอาการผู้ป่วย และหากอาการหนักขึ้นก็จะส่งต่อไปยัง รพ.ที่มีศักยภาพสูงกว่า แต่ รพ.บุษราคัม สามารถดูแลครบวงจร มี 1,092 เตียง และสามารถขยายได้ถึง 5,000 เตียง ขณะนี้ เบื้องต้นเปิดเฟสแรกก่อน สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง

Advertisement

“ขอยืนยันว่า รพ.บุษราคัม เป็นโรงพยาบาล และใช้งบประมาณ 13 ล้านบาทเศษเท่านั้น ในการปรับปรุงโครงสร้าง และไม่ได้เป็นไปตามเฟคนิวส์จนทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ขณะนี้ได้ให้กองกฎหมายของสำนักงานปลัด สธ. พิจารณาว่าจะดำเนินการกับข่าวปลอมอย่างไรต่อไป” รองปลัด สธ.กล่าว

นพ.ธงชัย ยังกล่าวถึงการนำบุคลากรไปช่วยใน รพ.บุษราคัม ว่า ได้ใช้บุคลากรที่มีความสมัครใจ และมาจากพื้นที่ที่สถานการณ์ดีขึ้น ขณะเดียวกัน มีระบบความปลอดภัย ทั้งผู้ป่วยและบุคลากร ทั้งนี้ รับผู้ป่วยจากการส่งต่อจาก รพ. เป็นสเต็บดาวน์ จากแรกเริ่มอาการรุนแรงหรือสีแดง และเริ่มดีขึ้นมาเป็นสีเหลือง จาก รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช ก็จะส่งไปที่ รพ.บุษราคัม เพื่อให้เตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงใน รพ.ว่างลง ทั้งนี้ การตั้ง รพ.บุษราคัม รองรับระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับ รพ.บุษราคัม ในอนาคตมีการวางแผนจัดบริเวณให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการ รพ.บุษราคัม กล่าวว่า โดยนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. และปลัด สธ.อยากให้มี รพ.ที่ดูแลเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยอาการปานกลางหรือสีเหลือง ซึ่งทุกกรมใน สธ. ช่วยกันดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง ปลายทาง คือ ทั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่ให้กระทบต่อชุมชน ระบบการดูแลผู้ป่วย สร้างแบบระบบโรงพยาบาลทั้งหมด ส่วนบุคลากรในการดูแลมาจากทั่วประเทศในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่สถานการณ์ลดลงหรือใกล้เคียงปกติ มีทั้งหมอ พยาบาล โดยมาจาก 14 จังหวัด รวมทั้ง รพ.ของโรงเรียนแพทย์ คือ รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) มาช่วยเช่นกัน โดยมีแพทย์ 20 กว่าคน พยาบาล 130 คน และเภสัชกรอีกประมาณ 10 กว่าคน เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยตั้งแต่เล็กน้อยถึงปานกลาง

Advertisement

“รพ.สนามทั่วไปจะดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว แต่ รพ.บุษราคัม ดูตั้งแต่สีเขียว และสีเหลือง ซึ่งผลการดำเนินงาน 4 วันที่ผ่านมา มี 267 คน เป็นสีเหลือง 61 คน หรือ ร้อยละ 20 และส่วนหนึ่งต้องใส่ออกซิเจน ขณะที่บางส่วนต้องส่งต่อเพราะเริ่มกลายเป็นสีแดง ซึ่งเรามีความพร้อมในการรองรับ ตอนนี้เพิ่งจะ 200 กว่าเตียง ยังได้อีก 800 กว่าเตียง” นพ.กิตติศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า รพ.บุษราคัม มีพื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร หรือ 12 ไร่ครึ่ง แบ่งออกเป็นโซนหลัก 2 โซน คือ โซนแรกผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน 270 เตียง และอีกโซน สำหรับผู้ป่วยทั่วไป และจะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อน ทำเป็นสวนสนามหญ้าเทียม มีเก้าอี้นั่ง มีโทรทัศน์ให้ความบันเทิง มีกิจกรรมโดยกรมสุขภาพจิต เกี่ยวกับการผ่อนคลายความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการดูแลคนไข้กลุ่มเด็ก ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต จะมีของเล่นให้ด้วย

“สำหรับผู้ป่วยที่จะเข้ามาที่ รพ.บุษราคัม นั้น ขณะนี้อยากให้เป็นการผ่านระบบสายด่วน 1669, 1669 ทั้งนี้ ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ สามารถเข้าพักในฮอสปิเทล (Hospitel) ได้ แต่หากเกิดปัญหากับผู้ป่วยทางระบบก็จะส่งข้อมูลมาที่เรา เพื่อเข้ารักษาใน รพ.บุษราคัม” นพ.กิตติศักดิ์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image