สธ.เดินหน้าใช้กัญชารักษา จ่อแก้ระเบียบให้ รพ.สกัด-ผลิต ปูทางเกษตรกรปลูกเพิ่ม

แฟ้มภาพ
สธ.เดินหน้าใช้กัญชารักษา ถกฝ่าย กม.แก้ระเบียบให้ รพ.ในสังกัดรับสกัด-ผลิตปูทางให้เกษตรกรปลูกเพิ่

วันนี้ (26 พฤษภาคม 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมระหว่างสถาบันกัญชาทางการแพทย์ กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมดังกล่าวมีผู้แทนจากกรมบัญชีกลางและสำนักงานกฤษฏีกา ร่วมให้คำแนะนำในการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้หน่วยบริการใน สธ. รับจ้างผลิตและสกัดดอกและส่วนต่างๆ ของกัญชาได้

นพ.กิตติ โล่สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ด้วยพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ ฉบับปัจจุบัน กำหนดให้ภาครัฐเป็นผู้ปลูกและผลิตยากัญชา ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนสามารถมีความร่วมมือกับภาครัฐในการปลูกได้
“เมื่อปลายปี 2563 คณะกรรมการยาเสพติดให้โทษได้ปลดส่วนของ ลำต้น กิ่งก้าน ใบ และรากกัญชาออกจากรายการยาเสพติดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการขับเคลื่อนให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ จากการวิเคราะห์ช่องว่างในการดำเนินงาน พบว่า ส่วนที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วนคือ กลางทาง หรือการแปรรูปวัตถุดิบกัญชาให้เป็นยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร จึงได้หารือร่วมกับกองกฏหมาย สำนักงานปลัด สธ. กรมการแพทย์แผนไทยฯ และ อย. ว่าต้องมีการจัดทำระเบียบและหลักเกณฑ์ให้โรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการผลิตยาสมุนไพร และได้มาตรฐานการผลิตจีเอ็มพี (GMP) ประมาณ 50 แห่ง ภายใต้ สธ. ซึ่งปัจจุบันมีหลายแห่งที่มีความร่วมมือกับเกษตรกรในการปลูกกัญชาร่วมกัน” นพ.กิตติ กล่าว
ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาฯ กล่าวว่า การจัดทำระเบียบนี้ คาดว่าจะช่วยผลักดันให้เกษตรกรมีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง รวมทั้งทำให้หน่วยงานภาครัฐสามารถส่งต่อวัตถุดิบกัญชาเพื่อสกัดและผลิตระหว่างกันได้ เช่น มหาวิทยาลัย สามารถส่งต่อวัตถุดิบให้โรงพยาบาลผลิตต่อในบางขั้นตอนได้ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน และสุดท้ายเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรที่จะมีผลิตภัณฑ์ของตนเอง หรือมีรายได้ที่ยั่งยืนจากการปลูกกัญชา
“แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องมีกลไกการดำเนินงานอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ซึ่งสถาบันกัญชาฯ จะร่วมกับภาคีเครือ     ข่ายในการทำงาน เพื่อสร้างอุปสงค์หรือความต้องการของทางการตลาดของผลิตภัณฑ์กัญชาให้มีความยั่งยืน ตั้งแต่การศึกษาความต้องการตลาดของผลิตภัณฑ์จากกัญชาทั้งยาและที่ไม่ใช่ยา การศึกษาวิจัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นความต้องการของตลาด และการเสริมสร้างทักษะในการปลูก และการแปรรูปขั้นต้นให้กับเกษตรกร สำหรับผู้ที่สนใจสามารถรับข่าวสารการดำเนินงานของสถาบันได้ที่เพจสถาบันกัญชาฯ” นพ.กิตติ กล่าว
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image