อนุทิน เผยวัคซีนกระจายแล้ว 1.1 ล้านโดสทั่วไทย หมอโอภาส ยัน ส่งตามโควต้า ศบค.

อนุทิน เผยวัคซีนกระจายแล้ว 1.1 ล้านโดสทั่วไทย หมอโอภาส ยัน ส่งตามโควต้า ศบค.

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมประจำเดือนของกระทรวงสาธารณสุขในภารกิจงาน สรุปและวางแผนงาน ซึ่งเดือนมิ.ย. เป็นเดือนสำคัญที่ สธ. ต้องดำเนินการกระจายและฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบนโยบายให้ สธ. ได้ปฏิบัติ ขอให้ประชาชนเชื่อถือข่าวสารจากสธ. เพราะเราเป็นผู้ควบคุมการจัดส่งวัคซีน

นายอนุทิน กล่าวว่า การกระจายวัคซีนเราดำเนินการมาต่อเนื่องโดยตลอด เมื่อวานนี้(1 มิ.ย.) มีการกระจายวัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า รวม 1.1 ล้านโดสให้กับหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ ทั้งนี้ วัคซีนก็จะทยอยหมุนออกมา(Rolling) ถึงมือประชาชนตามแผนที่กรมควบคุมโรครับจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) มาปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม วัคซีนแอสตร้าฯ มีทั้งผลิตในประเทศหรืออาจนำเข้าจากต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับซัพพลายเชน(Supply chain) ของบริษัทแอสตร้าฯ โดยกรมควบคุมโรคจะต้องตกลงกับบริษัทแอสตร้าฯ ในเรื่องจำนวนวัคซีนที่จะส่งในแต่ละเดือน ซึ่งจะเป็นตามเจตนารมณ์ที่ดีของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพการฉีดของเราและการจัดส่งของเขาที่จะทยอยส่งออกมารายสัปดาห์

“การกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม เรารับนโยบายจากท่านนายกฯ หารยาวก่อน แล้วใส่จำนวนประชากร และคูณปัจจัยระบาดของแต่ละจังหวัด จะได้ไม่มีใครพูดได้ว่า จังหวัดไหนมีนักการเมือง มีอิทธิพลที่สั่งวัคซีนมากเป็นพิเศษ เป็นสิ่งที่ สธ. ชอบมากที่สุด ใครจะสั่งนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ ผมและท่านปลัดฯ ท่านอธิบดีโล่งใจมาก เราต้องให้เครดิตท่านนายกฯ เยอะๆ” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระจายวัคซีนไปตามนโยบายของศบค. ว่า เบื้องต้นทุกจังหวัดต้องมีวัคซีนฉีดอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยการจัดสรรหารวัคซีนทุกจังหวัดเท่ากันก่อน 1.1 ล้านโดส ซึ่งอยู่ในระหว่างการส่งวัคซีน ทยอยไปทุกวัน ทั้งนี้ แผนการกระจายจะแบ่งออกเป็น 1.หารยาวจำนวน 2.จังหวัดระบาดจะได้รับเยอะกว่า 3.พื้นที่จำเพาะตามนโยบาย เช่น จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีเปอร์เซ็นต์ฉีดสูงสุดของไทย ขณะนี้ฉีดเข็มที่ 1 ได้ประมาณ 50% ของเป้าหมาย 4 แสนคน หรือประมาณ 3 แสนโดส ขณะที่ ชลบุรี พัทยา เกาะสมุย ก็จะได้รับการจัดสรรเพิ่มเติม

“การจัดสรรขึ้นกับวัคซีนที่เรามี กับความต้องการฉีดต้องปรับตามสถานการณ์ ศบค.ให้แนวมาเป็นแผนประจำเดือน แล้วเราทอนมาเป็นรายสัปดาห์ ส่งไปแล้วเราตามดูสต๊อกเหลือเท่าไหร่ จังหวัดให้เยอะแล้วฉีดได้น้อย เราจะไม่ส่งไปเพิ่ม จนกว่าจะฉีดเสร็จ ดังนั้น การฉีดกับการมีวัคซีนต้องเหมาะสมกัน” นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดว่าควรจะต้องทำการฉีด คือ 1.ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่จองผ่านระบบเข้ามา ควรได้รับการฉีดตามที่จองไว้ 2.การเปิดเทอมก็ควรฉีดกลุ่มครู อสม.ที่ตกหล่น บุคลากรแพทย์ ซึ่งแต่ละจังหวัดต้องบริหารการฉีดตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ ท่านายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. ได้กำหนดกลุ่มพิเศษขึ้นมา เช่น กลุ่มผู้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ โดยสำนักงานประกันสังคมได้รับโควต้า 1 ล้านโดส เราก็จัดส่งวัคซีนไปที่จุดฉีดของเขา กลุ่มเฉพาะ โดยที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย 11 แห่ง จะเข้ามาช่วยมีการกำหนด 11 จุด ฉีด ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นต้น โดยมีโควต้าให้ 500,000 โดส แล้วแต่จะไปพิจารณากระจายกันเอง แล้วเราก็มีหน้าที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนด สำหรับกลุ่มนักโทษในเรือนจำนั้น ได้มีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้วว่ากลุ่มไหนควรจะฉีดก่อนฉีดหลัง ยกตัวอย่างเช่น เรือนจำที่มีการติดเชื้อไปค่อนข้างมากไม่จำเป็นต้องรีบเพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อแล้วจึงต้องรอประมาณ 3 เดือนแล้วค่อยฉีด ดังนั้นวัคซีนระยะนี้จะเน้นในเรือนจำที่ยังไม่มีการติดเชื้อเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image