เขาใหญ่ ซ่อมเพนียด ป้องกันช้างตกหน้าผา น้ำตกเหวนรก
วันที่ 12 มิถุนายน นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากกรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2562 มีช้างป่าจำนวน 11 ตัว ได้พลัดตกลงไปตายบริเวณน้ำตกเหวนรก ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับบรรดากลุ่มคนรักช้าง ตลอดจนประชาชนคนไทยโดยทั่วไปที่ได้ทราบข่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้กำหนดแนวทางในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาโดยการปรับปรุงซ่อมแซมเพนียด เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าพลัดตกลงไปบริเวณหน้าผาน้ำตกเหวนรก ซ้ำรอยอดีตที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำฐานปฏิบัติการ ช.ช้าง สำหรับคอยเฝ้าระวังผลักดันไม่ให้ช้างป่าเข้าใกล้บริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นอันตราย
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ดำเนินการซ่อมแซมเพนียดป้องกันช้างป่าพลัดตกหน้าผาน้ำตกเหวนรกจนเสร็จทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งได้จัดตั้งฐานปฏิบัติการพิเศษไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อคอยเฝ้าระวังไม่ให้ช้างป่าเข้ามาใกล้บริเวณที่เป็นอันตราย
“เรื่องราวเกี่ยวกับช้างป่าที่พลัดตกน้ำตกเหวนรก เคยมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้วเมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้มีโขลงช้าง จำนวน 8 ตัว ถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปตายทั้งหมด อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงได้สร้างแนวรั้วป้องกันอันตรายหรือเพนียด ไม่ให้ช้างป่าหรือสัตว์น้อยใหญ่ตกลงไปบริเวณน้ำตกเหวนรก แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไปหลายปี มีน้ำป่ากัดเซาะบริเวณใต้ฐานเพนียด จึงทำให้แนวกั้นบริเวณใต้ฐานเกิดการชำรุดสึกกร่อนเสียหาย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงได้ดำเนินการซ่อมแซมให้แน่นหนาและแข็งแรงขึ้นดังกล่าวข้างต้น”นายอดิศักดิ์ กล่าว
สำหรับน้ำตกเหวนรกเกิดจากคลองท่าด่าน เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณ กม.ที่24 บนทางหลวงหมายเลข 3077 แต่เดิมก่อนที่จะมีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ จะต้องเดินเท้าเข้ามาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แต่ภายหลังจากมีการก่อสร้างถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ จนแล้วเสร็จ ถนนตัดผ่านใกล้น้ำตกเหวนรกมากขึ้น จากบริเวณลานจอดรถต้องเดินเท้าข้ามห้วยสมอปูน ต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร น้ำตกมี 3 ชั้น โดยน้ำตกชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 50 เมตร เป็นหน้าผาลาดชันในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำเป็นจำนวนมากไหลลงสู่เบื้องล่าง ละอองน้ำที่ตกกระเซ็นกระสายเมื่อสัมผัสกับแสงอาทิตย์จะเห็นเป็นสีรุ้งสวยวิจิตรงามตายิ่งนัก สำหรับชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ค่อนข้างอันตราย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
