อนุทิน รับข้อเสนอฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มร้านอาหาร-หาบเร่ ก.ค.เคลียร์หมอพร้อมจบ 10 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย ผู้ค้าอิสระ ซึ่งมีการประสานงานผ่าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และ นายภราดร ปริศนานันทกุล เข้ามาหารือกับ สธ.เพื่อขอให้มีการพิจารณาจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นร้านเล็กๆ ทั่วไป และหาบเร่แผงลอย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการซื้อกลับบ้าน แต่ก็มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้คนจำนวนมาก และผู้ค้าขายเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และเป็นกลุ่มที่อยู่นอกกลุ่มที่จะสามารถลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม หรือไทยร่วมใจ ได้ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 200,000 คน
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนรับฟังความเดือดร้อน จึงได้มีนโยบายให้เกิดการรวบรวมกลุ่มมาในลักษณะภาคีเครือข่าย เพื่อกรมควบคุมโรคจะได้พิจารณาจัดสรรวัคซีน เฉลี่ยให้ในลักษณะกลุ่ม ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน เหมือนกับที่เราได้ฉีดให้กับกลุ่มผู้ขับรถรับจ้าง เบื้องต้น หากมีการพิจารณาข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะให้ฉีดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคต้องไปหารือร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า กลุ่มเหล่านี้ได้ถูกตัดยอดมาที่การฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อแล้ว เพื่อให้ตัดยอดออกจากตรงนั้นจะได้ไม่กระทบกับคนอื่นๆ ต่อไป
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ย้ำว่าการฉีดวัคซีนให้กลุ่มนี้จะไม่กระทบกับยอดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ที่ลงทะเบียนในหมอพร้อม ที่จะต้องเร่งดำเนินการฉีดให้ครบภายใน 1- 2 เดือนนี้ ก่อนตามนโยบายของ ศบค. และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน ถ้ามีกำลังเหลือที่จะให้บริการกลุ่มต่างๆ ได้ก็จะรีบดำเนินการทันทีเช่นเดียวกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับวัคซีนเดือนมิถุนายนนี้ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย และในเดือนกรกฎาคมนี้ จะทำการฉีดให้กับประชาชนได้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้
“สำหรับการหารือกับเจ้าของพื้นที่เมืองทองธานี เพื่อขอต่อสัญญาเช่าพื้นที่เมืองทองธานีให้ รพ.บุษราคัม เป็นไปด้วยดี ซึ่งเจ้าของพื้นที่ให้ความกรุณาในการใช้พื้นที่ไปจนถึงประมาณเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้พื้นที่ฮอลล์กลาง เปิดได้มากถึง 2,000 เตียง รวมๆ แล้วพื้นที่เมืองทองสามารถเปิดเตียงรองรับได้มากถึง 4,000 – 5,000 เตียง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่มอบอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ใน รพ.สนาม ก็พร้อมที่จะบริจาคให้ถือเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการที่ให้การดูแลเพื่อนร่วมชาติ” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในเดือนกรฎาคมนี้ จะมีวัคซีนสำหรับฉีดให้ประชาชนราว 10 ล้านโดส โดยในส่วนของผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ในเดือนกรกฎาคมนี้ มีจำนวน 4 ล้านคน ดังนั้น มีวัคซีนเพียงพอ และเนื่องจาก 2 กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการได้รับวัคซีนโดยเร็ว จึงจะมีการเลื่อนคิว 2 กลุ่มนี้ ที่ลงทะเบียนฉีดในเดือนสิงหาคมนี้ ให้มารับวัคซีนเร็วขึ้น จากนั้น จะเป็นกลุ่มเป้าหมายเพื่อการควบคุมการระบาด ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ระบาด เช่น ถนนข้าวสาร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริณฑล จากนั้นก็เป็นกลุ่มกรุงเทพฯ ที่ยังตกหล่น รวมถึงทหารที่ทำหน้าที่คุมแคมป์คนงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังมมีพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ เช่น ภูเก็ต ซึ่งฉีดได้จำนวนมากแล้ว เกือบครบแล้ว
