“สธ.” ขอล็อกดาวน์ตัวเอง 14 วัน เคร่งมาตรการสกัดโควิด ตรวจเชื้อ-ฉีดวัคซีน
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงว่า ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ต้องการให้ทุกคนลดการเคลื่อนที่ งดการเดินทาง เพื่อที่จะให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน และลดการกระจายจากครอบครัวหนึ่งไปสู่อีกครอบครัวหนึ่ง ในการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะในที่ทำงาน หรือนอกบ้าน บนขนส่งสาธารณะทั้งหลาย อาจจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีการแพร่ระบาดของโรคต่อเนื่องได้
“หากต้องการให้หยุดอยู่ตรงนี้ หยุดการแพร่เชื้อให้ได้เร็วที่สุด ต้องขอให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อคนที่เรารักและฉีดวัคซีนให้กับคนที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งวัคซีนทุกยี่ห้อ แม้ฉีดครบแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อได้ เมื่อติดเชื้อแล้วมีโอกาสแพร่เชื้อได้ ดังนั้น คนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็จะต้องช่วยกันที่จะไม่ให้การแพร่เชื้อกระจายออกไปสู่ครอบครัวอื่นด้วยการอยู่บ้าน” นพ.จักรรัฐ กล่าว
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ขอให้ 14 วันนี้ เริ่มต้นวันที่ 20 ก.ค. เป็นวันแรก โดย 1.ขอให้งดออกจากบ้านทุกคน ยกเว้น ส่วนที่จำเป็นจริงๆ เช่น ซื้อหาอาหารและเครื่องใช้จำเป็น ซื้อยา ไป รพ.ไปพบแพทย์ ไปฉีดวัคซีน ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข และปฏิบัติหน้าที่จำเป็นต่อสาธารณะตามมาตรการที่กำหนด เช่น ทหาร ตำรวจ จิตอาสา ที่ไปช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ 2.อยู่บ้านแบบป้องกันคนในบ้าน ด้วยการป้องกันสูงสุด เช่น สวมหน้ากากระหว่างพูดคุยกันระยะใกล้ชิด รับประทานอาหารแยกออกจากกัน อาจจะแยกที่นอนบ้าง หากใครที่เสี่ยงมาก 3.ถ้าสงสัยว่าติดเชื้อ และมีความเสี่ยง รีบลงทะเบียนไปตรวจด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) เพื่อตรวจว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือไม่ เข้าข่ายการติดเชื้อแล้วหรือยัง 4.ถ้าติดเชื้อ ติดต่อประสานทีมดูแล CCRT มาช่วยดูแล เป็นทีมที่ช่วยดูแลโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีการระบาดค่อนข้างมาก โดยติดต่อผ่านทางสายด่วน 1330 เพื่อดูแลทุกท่านที่บ้าน ซึ่งวิธีการดูแลมีหลายรูปแบบ และ 5.ต้องพาผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ไปรับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อจะได้สร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการป่วยที่รุนแรงหากติดเชื้อ
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า มาตรการควบคุมโรคช่วง 14 วันนี้ “งดออกจากบ้าน” อยู่บ้านแบบป้องกันคนในบ้าน โดยวิธีการเพิ่มความปลอดภัยให้คนที่รัก โดย 1.เช็กความเสี่ยงของทุกคนในบ้าน หากเสี่ยงมาก เช่น เคยใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ไปที่แออัดมา ที่ทำงานมีผู้ติดเชื้อ พบลูกค้ามาก ขอให้เข้ารับการตรวจคัดกรองว่ามีโอกาสติดเชื้อแล้วหรือไม่ หากเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ขอรับการตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท ที่หน่วยบริการใกล้บ้านฟรี 2.พูดคุยห่างๆ สวมหน้ากากขณะคุยกัน 3.แยกรับประทานอาหารให้ห่างกันระหว่างทำอาหาร รับประทานอาหาร หรือรับประทานคนละเวลา 4.ทำความสะอาด บริเวณที่จับร่วมกันบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได โต๊ะอาหาร พัดลม รีโมท และ 5.แยกที่นอน นั่งดูทีวีห่างกัน งดกิจกรรม หรือการสัมผัสที่จะใกล้ชิดกันมากๆ
อย่างไรก็ตาม นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ถ้ามีความเสี่ยง จะมี 4 จุดตรวจคัดกรองในกรุงเทพฯ ฟรี ได้แก่ 1.สนามกีฬาธูปะเตมีย์ กองทัพอากาศ 2.สนามราชมังคลากีฬาสถาน(หัวหมาก) 3.ลานจอดรถชั้น 1 อาคารบี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนา และ 4.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติฯ หรือสถาบันธัญญารักษ์เดิม นอกจากนี้ คลินิกชุมชนอบอุ่นที่อยู่ใกล้บ้านก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะตรวจหาเชื้อโดยชุดตรวจแอนติเจน เทสต์คิทได้ด้วย ส่วนจังหวัดอื่นๆประสานสอบถามแต่ละจังหวัดได้
