ศบค.แถลงตัวเลขติดเชื้อต่างจังหวัดพุ่ง ระบาดแล้ว 518 โรงงาน ติดเชื้อ 3.6 หมื่นคน
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า สถานการณ์ติดเชื้อในประเทศไทย ยังมีตัวเลขที่ไต่ระดับขึ้นมาวันนี้อยู่ที่ 17,345 ราย สถานการณ์ทั่วโลก เพิ่มขึ้น อยู่ที่ 661,194 ราย สะสมทั่วโลกเกือบ 200 ล้านราย การเสียชีวิตสะสมทั่วโลก 4,200,000 กว่าคน สร้างความเสียใจ ขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกา และอินเดีย ซึ่งตัวเลขติดเชื้อลดลง ก็มีการเกิดระบาดเพิ่มขึ้น ประเทศไทยอยู่ที่ อันดับ 44 สถานการณ์ที่สำคัญ คือการรักษา หายแล้ว 10,678 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 117 ราย รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามและสถานที่อื่น ๆ 192,526 ราย ทั้งนี้ตนเพิ่มกลับมาจากภาคอีกสานใต้ เห็นการเคลื่อนย้ายแรงงานกลับไปยังถิ่นเดิม ทำให้เกิดการติดเชื้อและการกระจายตัวของคนที่เข้าโรงพยาบาลต่าง ๆ ขณะที่อาการหนัก อยู่ที่ 4,595 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ 1,012 ราย ฉีดวัคซีนไปแล้ว กว่า 17 ล้านโดส เข็มที่ 1 อยู่ที่ 13.2 ล้านราย เข็มที่ 2 อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการให้เขตตรวจราชการสธ. เพิ่มจำนวนการฉีดวัคซีนเฉพาะกลุ่ม 608 คือผู้ที่สูงอายุ 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีน้ำหนักมา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า การเสียชีวิต มากสุดยังเป็น กรุงเทพฯ 55 ราย รองลงมาสมุทรปราการ 9 ราย สมุทรสาคร 8 ราย ปทุมธานี 6 ราย นครปฐม 4 ราย ภาคใต้ ปัตตานี 4 ราย นราธิวาส 7 รราย สงขลา 1 ราย ตรัง 1 ราย ระนอง 1 ราย อีสาน กาฬสินธุ์ 2 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย นครพนม 1 ราย อุดรธานี 1 ราย สกลนคร 1 ราย ภาคเหนือ สุโขทัย 2 ราย นครสวรรค์ 2 ราย ตาก 2 ราย กำแพงเพชร 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย ภาคกกลาง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ1 ราย ผู้ติดเชื้อเพศชาย 62 ราย หญิง 55 ราย เป็นชาวไทย 112 ราย เมียนมา 5 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย กทม.8 ราย ปทุมธานี 1 ราย
โฆษกศบค. กล่าวต่อว่า จากที่ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อ เดินทางจากต่างประเทศเข้า 8 ราย การ์ต้า 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สเปน 1 ราย ผ่านระบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส อยู่ระหว่างการดูแลรักษา กัมพูชา 2 ราย มาเลเซีย 3 ราย ช่องทางทางธรรมชาติ ติดเชื้อในเรือนจำ 681 ราย ตรวจเชิงรุก 3,800 ราย และเข้าสู่ระบบบริการ 12,823 ราย ซึ่งทางอธิบดีกรมการแพทย์รายงานว่า ตรงนี้ทำให้ปัญหาเตียงล้นเกิดขึ้น ขณะที่จำนวนเปอร์เซ็นต์ของต่างจังหวัด เพิ่มขึ้น ร้อยละ 57 กรุงเทพฯ อยู่ที่ ร้อยละ 13 สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 3,231 ราย ยอดสะสม 148,454 ราย สมุทรปราการ 1,386 ราย ยอดสะสม 37,701 ราย สุมทรสาคร 1,186 ราย ยดอสะสม 29,330 ราย ชลบุรี 914 ราย ยอดสะสม 24,418 ราย นนทบุรี 587 ราย ยอดสะสม 23,381 ราย ฉะเชิงเทรา 479 ราย ยอดสะสม 9,960 ราย นีรปฐม 378 ราย ยอดสะสม12,048 ราย อุบลราชธานี 350 ราย ยอดสะสม 4,434 ราย ปทุมธานี 330 ราย ยอดสะสม 19,153 ราย และสงขลา 324 ราย ยอดสะสม 10,582 ราย
“ที่ประชุมศบค.ได้รับทราบรายงานมีคลัสเตอร์ใหม่ เกิดขึ้นที่สมุทรปราการ ในบริษัทระบบไฟฟ้า สมุทรสาคร เป็นโรงงานยางรถยนต์ 14 ราย โรงงานปลา 13 ราย ชลบุรีเป็นโรงงานปรับอากาศ 15 ราย ปทุมธานี บริษัทยางรถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งดูแลโรงงานต่าง ๆ ได้เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบทางไกล เทเลคอนเฟอเรนซ์ เรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงัก แต่การส่งออกภาคอุตสาหกรรมยังคงทำได้ หลายโรงงานยังเดินเครื่องจักรได้ ทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ เป็นสิ่งที่ต้องพยายามรักษาระบบการผลิตตรงนี้เอาไว้ โดยทางผู้แทนกระทรวง อุตสาหกรรม รายงานข้อมูลตั้งแต่1 เมษายน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม พบว่า มีการระบาดของโรงงาน 518 แห่ง ติดเชื้อ 36,861 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 49 จังหวัด ซึ่ง 5 อันดับแรก คือ เพชรบุรี 4,464 คน เพชรบูรณ์ 3,486 คน ประจวบคีรีขันธ์ 2,538 คน สุมทรสาคร 2,496 คน และสงขลา 2,209 คน อุสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก จากข้อมูลวันที่ 10 มิถุนายน 2564 คือ อุตสาหกรรมอาหาร 99 แห่ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 74 แห่ง อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม 42 แห่ง อุตสาหกรรมโลหะ 42 แห่ง แบะอุตสาหกรรมพลาสติก 36 แห่ง ทางกระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่ามีระบบตรวจสอบและมาตรการดูแลตามแนวทางของกรมอนามัย ซึ่งประเมินแล้วในจำนวน 12,256 แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ประมาณ 5,749 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 31 แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ประเมิน ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะต้องเข้าไปดูแล “ นพ.ทวีศิลป์ กล่าว และว่า ขณะเดียวกันจะมีการปรับเวลาแถลงข่าว เป็นทุกวันจันทร์และพฤหัสบดี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้มากขึ้น โดยสามารถติดตามข้อมูลของศบค.ได้ทางเฟซบุ๊ก
