อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำ! ต้องฉีดไฟเซอร์ตามกลุ่มเป้าหมาย จี้ กก.โรคติดต่อ จว.ตรวจสอบ

อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำ! ต้องฉีดไฟเซอร์ตามกลุ่มเป้าหมาย จี้ กก.โรคติดต่อ จว.ตรวจสอบ

กรณีสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ล็อต 1.5 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุนไปยังพื้นที่ต่างๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย กลับพบว่าในพื้นที่จ.สุรินทร์ มีการจัดสรรวัคซีนให้นอกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นสายงานแบ็ค ออฟฟิศ (Back office) ทำหน้าที่ด้านเอกสารได้รับวัคซีนก่อนบุคลากรด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรงนั้น

วันนี้ (15 สิงหาคม 2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สธ.ให้สัมภาษณ์ว่า กรมควบคุมโรคมีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไฟเซอร์ เป็นไปตามจำนวนที่มีการสำรวจ และจัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายตามที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อจัดส่งให้กับพื้นที่ต่างๆ ต้องดำเนินการตามนโยบายในการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์กับกลุ่มเป้าหมายก่อน ดังนั้น เมื่อมีข้อร้องเรียนว่า พบการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มนอกเป้าหมาย ที่ไม่ได้กำหนดไว้ ขอให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ไม่ว่าจังหวัดใดก็ตาม หากมีเรื่องลักษณะนี้ ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว

“เมื่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรวจสอบแล้ว ขอให้รวบรวมข้อมูลส่งเรื่องเข้ามาที่ สธ.ซึ่งมีคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (Pfizer) จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป เนื่องจากตามนโยบายการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ล็อตนี้ต้องเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด โดยต้องเน้นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิดก่อน และกลุ่มเสี่ยง” นพ.โอภาส กล่าว

ทั้งนี้ นพ.โอภาส กล่าวว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. มีผู้รับบริการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 23,476,869 โดส หากแยกรายละเอียดเข็มที่ 1 จำนวน 17,879,206 ราย หรือ คิดเป็นร้อยละ 24.8 ส่วนผู้รับบริการที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม มีจำนวน 5,073,672 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 7

Advertisement

“สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์จะฉีดให้กับ 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1.บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 2.ผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังอายุ 12 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป 3.ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง 4.ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต เป็นต้น” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image