สค.ยกระดับสถานคุ้มครองฯ 4 แห่ง รุกฝึกอาชีพสตรีและครอบครัวสู้ภัยโควิด
นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินงานสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ ว่า ตามที่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ได้กำหนดให้มีสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ เพื่อรองรับผู้กระทำผิดคดีค้าประเวณีและสมัครใจเข้าฝึกอบรมอาชีพ ให้สามารถมีอาชีพอื่นและไม่กลับไปค้าประเวณีนั้น
พบว่าภายหลังมีกฎหมายค้ามนุษย์ที่แยกผู้ถูกบังคับค้าประเวณีออกไป เหลือเพียงผู้กระทำผิดที่เต็มใจค้าประเวณี ซึ่งส่วนใหญ่ยอมเสียค่าปรับ และไม่สมัครใจเข้าฝึกอาชีพ เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับ ก็แทบไม่มีผู้ค้าประเวณีเข้ามาฝึกอาชีพอีกเลย
อธิบดี สค. กล่าวอีกว่า แต่เนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด สค.ได้เห็นความเดือดร้อนและต้องการของผู้หญิงและครอบครัว จึงเพิ่มบทบาทและประสิทธิภาพของสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพที่มีอยู่แล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ได้แก่ กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี พิษณุโลก และนครราชสีมา ให้สามารถคุ้มครองเชิงรุกผู้หญิงด้วยการจัดพัฒนาอาชีพ ควบคู่ไปกับศูนย์พัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่งทั่วประเทศ ที่เป็นเสมือนศูนย์ฝึกอาชีพสตรี ศูนย์แม่เลี้ยงเดี่ยว เริ่มในปีงบประมาณ 2565 หรือตุลาคมนี้
โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งอยู่เขตลาดพร้าว จะเป็นเหมือนศูนย์ฝึกอาชีพสตรีแห่งแรก ที่นอกจากช่วยฝึกอาชีพให้สตรีในชุมชนแออัดแล้ว ยังจะเปิดให้บริการครบวงจร เช่น ซักรีด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างรายได้แก่สตรีและครอบครัวต่อไป