‘หมอยง’ ชี้การให้วัคซีนในเด็ก 12-17 ปี ต้องมีความปลอดภัยสูง

‘หมอยง’ ชี้การให้วัคซีนในเด็ก 12-17 ปี ต้องมีความปลอดภัยสูง

เมื่อวันที่ 20 กันยายน นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องโควิด 19 ในเด็ก และการให้วัคซีน โดยระบุว่า “โรคโควิด-19 ในเด็ก อายุ 12-17 ปี จะมีอาการไม่มาก หรือเสียชีวิตน้อยมาก
จากการศึกษาในอเมริกาช่วงการระบาด 120 วัน เด็กวัยรุ่น 1 ล้านคน ผู้ชายเสียชีวิต 2 คน ถ้าเป็นผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน การติดเชื้อในเด็กส่วนมากจะรับเชื้อมาจากผู้ใหญ่ เช่น ผู้ปกครอง ครอบครัว ครูและบุคลากรในโรงเรียน เมื่อเด็กมารวมกันเป็นกลุ่ม จะเป็นต้นเหตุของการระบาดได้
การให้วัคซีนในผู้ใหญ่จึงมีความสำคัญในการป้องกันเด็ก และการให้วัคซีนในเด็กจะต้องมีความปลอดภัยสูง

วัคซีน mRNA อาการข้างเคียงที่สำคัญคือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อายุน้อยพบมากกว่าผู้ที่สูงอายุ เพศชายพบมากกว่าเพศหญิง ส่วนใหญ่พบในเข็มที่ 2 มากกว่าเข็มแรก ประเทศอังกฤษ สวีเดน และฮ่องกง ให้ฉีดเพียงเข็มเดียว การฉีดเข็มเดียวภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นไม่เพียงพอ

เมื่อมีวัคซีน mRNA กระทรวงสาธารณสุขให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการวัคซีน mRNA มีอยู่ข้อหนึ่งว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดใดมาก็ตาม สามารถฉีดวัคซีน pfizer เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างตามวัคซีนเข็มแรก

บุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย sinovac หรือ sinopharm แล้วฉีด pfizer เข็มที่ 2 น่าจะได้มีการรวบรวมอาการข้างเคียง
ทางศูนย์ก็ยินดีที่จะตรวจภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ในเด็กวัยรุ่น ในการให้วัคซีน mRNA เพียงเข็มเดียว เพื่อลดการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
#หมอยง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image