กรมควบคุมโรคเปิดสูตรเด็ด 3 ป. กำจัดพิษสุนัขบ้า! ตั้งเป้าไทยปลอดเชื้อใน 4 ปี

กรมควบคุมโรคเปิดสูตรเด็ด 3 ป. กำจัดพิษสุนัขบ้า! ตั้งเป้าไทยปลอดเชื้อใน 4 ปี

เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายนทุกปี องค์กรรณรงค์ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าโลก (Global Alliance for Rabies Control) กำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนทั่วโลก รู้ถึงความรุนแรงของโรคนี้ เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มียารักษา หากป่วยแล้วจะเสียชีวิตทุกราย ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละ 49,000 ราย ร้อยละ 40 เป็นเด็ก ในปีนี้ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ว่า “กลัวโควิด อย่าลืมพิษสุนัขบ้า ไม่ตระหนก แต่ต้องตระหนัก” (Rabies: Facts Not Fear)

นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญ สถานการณ์ของไทยขณะนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้เสียชีวิตในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาลดลงพบปีละ 3-4 ราย สาเหตุเกิดจากถูกสุนัขกัดและมากกว่าครึ่งเป็นสุนัขที่มีเจ้าของ ที่สำคัญผู้เสียชีวิตทุกรายไม่ได้ไปฉีดวัคซีนหลังจากถูกสัตว์กัดหรือข่วน ในการแก้ปัญหานี้ กรมควบคุมโรคได้ร่วมมือกับกรมปศุสัตว์และเครือข่าย ดำเนินงานภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ เป้าหมายสำคัญคือป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าอย่างยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2565 นี้ ตั้งเป้าไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ พร้อมทั้งเตรียมประเมินอำเภอที่ไม่พบผู้เสียชีวิตและไม่พบสัตว์ป่วย ให้เป็นอำเภอปลอดโรคซึ่งขณะนี้มีประมาณ 600 อำเภอ ใน 59 จังหวัด โดยตั้งเป้าเป็นประเทศปลอดโรคให้สำเร็จภายใน พ.ศ.2568 เร็วกว่าข้อตกลงในระดับภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมไทยด้วยที่ตั้งเป้ากำจัดโรคนี้ให้หมดภายใน พ.ศ.2573 โดยหัวใจความสำเร็จการแก้ไขปัญหานี้คือความร่วมมือของประชาชนและภาคประชาสังคม

“โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่ป้องกันได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความตระหนักรู้ป้องกันตนเองอย่างถูกต้องหลังจากสัมผัสเชื้อโรค เนื่องจากโรคนี้ไม่ได้แสดงอาการทันทีหลังถูกสัตว์กัด อาจต้องรอเวลาระยะฟักตัวของโรคกว่าจะแสดงอาการโดยเฉลี่ยประมาณ 3.7 เดือน เมื่อแสดงอาการป่วยแล้ว จะไม่มีทางรักษา จะเสียชีวิตทุกราย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมโดยเร็ว” นายแพทย์โอภาสกล่าว

Advertisement
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค

นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า ประชาชนทุกคนสามารถร่วมมือร่วมใจกันกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยได้ โดยใช้หลัก 3 ป. ดังนี้ ป.ที่ 1 คือ ป้องกันสัตว์เป็นโรค โดยการนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เริ่มฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 2-4 เดือน และฉีดซ้ำตามกำหนดทุกปี ทำหมันสุนัขถาวรเพื่อไม่ให้มีจำนวนมากเกินความต้องการ จะช่วยลดสุนัขจรจัด และหากพบสัตว์ตายผิดปกติ ขอให้ส่งซากสัตว์ไปตรวจหาเชื้อซึ่งปัจจุบันสามารถส่งได้ทั้งตัวไม่ต้องตัดหัว ผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งตรวจได้ที่สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ในต่างจังหวัดส่งที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและอำเภอ

ป.ที่ 2 คือ ป้องกันการถูกกัด ไม่ปล่อยสุนัข หรือแมวออกนอกบ้านตามลำพัง หากต้องพาออกไปนอกบ้านให้ใส่สายจูง นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกกัดโดยยึดคาถา 5 ย. คือ 1.อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห โกรธ 2.อย่าเหยียบหาง หัว ตัว ขา หรือ ทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆ ตกใจ 3.อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า 4.อย่าหยิบชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร และ 5.อย่ายุ่งหรือเข้าใกล้กับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่ทราบประวัติ

ป.ที่ 3 ป้องกันหลังถูกกัด โดยรีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่อย่างเบามือนานอย่างน้อย 10 นาที เพื่อกำจัดเชื้อออกไปให้มากที่สุด จากนั้นใส่ยาฆ่าเชื้อที่บาดแผล และกักสุนัขเพื่อดูอาการ 10 วัน หากสุนัขตายให้ส่งตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และไปพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ควรฉีดให้ครบชุดและตรงตามแพทย์นัด อาจท่องจำง่ายๆ คือ “ล้างแผล ใส่ยา กักหมา หาหมอ และฉีดวัคซีนให้ครบ เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้

Advertisement

สำหรับกิจกรรมวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกในวันที่ 28 กันยายน 2564 ในส่วนกลาง กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเสวนาเรื่องความรู้การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในรูปแบบออนไลน์ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ผ่านทาง Facebook วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ส่วนในต่างจังหวัดจะมีการรณรงค์ออกหน่วยเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัข แมว และทำหมันสุนัข โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image