สรุปมาตรการคลายล็อก 1 ต.ค.นี้ ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง?

สรุปมาตรการคลายล็อก 1 ต.ค.นี้ ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง?

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีมติ ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ในคราวที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 

นอกจากนี้ ให้คลายล็อกกิจกรรม/กิจการต่างๆ ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 หรือวันพรุ่งนี้ ดังนี้

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน เปิดดำเนินการได้ ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ กทม. โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ

2.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ

Advertisement

3.พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน

4.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมหรือหอศิลป์ ให้เปิดได้จำกัดจำนวน เช่น 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร หรือให้เข้าชมได้ไม่เกิน 75% (ตามกำหนด) สวมหน้ากากตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร ให้เคร่งครัดมาตรการ โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะไปจัดทำแนวปฏิบัติออกมา

5.ร้านทำเล็บ เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า

Advertisement

6.ร้านสัก เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า ลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ ATK/RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ

7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด/สปา) เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า จำกัดเวลาบริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง/คน สามารถเปิดบริการที่ใช้น้ำเพื่อสุขภาพในกิจการสปา ภายใต้พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 (ลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ ATK/RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง)

ทั้งนี้ ยังไม่เปิดบริการอบไอน้ำ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ

8.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือฉายภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึง 21.00 น. ลดจำนวนเหลือ 50% และนั่งที่เว้นที่ แต่ถ้ามาด้วยกันให้นั่งด้วยกันได้ สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหาร กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ออกแนวปฏิบัติ

9.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร เปิดดำเนินการได้ จำกัดจำนวนนักดนตรีไม่เกิน 5 คน นักดนตรีสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะเวลาร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้อง นักดนตรี และลูกค้า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ

10.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ยังไม่เปิดดำเนินการ ให้มีการติดตามสถานการณ์ 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากทำให้มีการเดินทางเข้าร่วมอบรมสัมมนาจากหลายพื้นที่ และมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ

สำหรับสถานะสีของแต่ละพื้นที่ ยังคงเดิม คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด

โดย พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด หรือสีแดงเข้ม ให้ปฏิบัติดังนี้

  • การห้ามออกนอกเคหสถานจากเดิมเวลา 21.00-04.00 น. ปรับลดลงเป็นเวลา 22.00-04.00 น.
  • ห้างสรรพสินค้าจากเดิมเปิดถึงเวลา 20.00 น. ปรับเปิดได้ถึง 21.00 น.
  • ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เฉพาะจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค จากเดิมเปิดถึง 20.00 น. ปรับเปิดได้ถึง 21.00 น.
  • กีฬากลางแจ้ง เปิดได้ทุกประเภทกีฬาไม่เกิน 21.00 น.

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด หรือสีแดงเข้ม ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานคร 2.นครปฐม 3.นนทบุรี 4.ปทุมธานี 5.สมุทรปราการ 6.สมุทรสาคร 7.ฉะเชิงเทรา 8.ชลบุรี 9.พระนครศรีอยุธยา 10.นราธิวาส 11.ปัตตานี 12.ยะลา 13.สงขลา 14.กาญจนบุรี 15.ตาก 16.นครนายก 17.นครราชสีมา 18.ประจวบคีรีขันธ์ 19.ปราจีนบุรี 20.เพชรบุรี 21.เพชรบูรณ์ 22.ระยอง 23.ราชบุรี 24.ลพบุรี 25.สิงห์บุรี 26.สมุทรสงคราม 27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี และ 29.อ่างทอง

คลิกอ่าน ศบค.ไฟเขียวขยับเคอร์ฟิว ยืดนั่งกินในร้าน-เล่นดนตรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image