กรมอนามัย รำลึก ร.9 เผย 16 ปี ฟันเทียมพระราชทาน ช่วยสูงวัย 711,339 ราย

กรมอนามัย รำลึก ร.9 เผย 16 ปี ฟันเทียมพระราชทาน ช่วยสูงวัย 711,339 ราย

วันนี้ (13 ตุลาคม 2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จากกระแสพระราชดำรัสความว่า “เวลาไม่มีฟัน กินอะไร ก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” สธ. โดยกรมอนามัยร่วมกับหน่วยบริการทั่วประเทศและภาคีเครือข่ายได้ดำเนินงานโครงการฟันเทียมพระราชทานตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน สามารถจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากผู้สูงอายุจำนวน 711,339 ราย เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ของผู้สูงอายุ ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลระบบบริการสาธารณสุข (HDC) ปี 2564 ผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 30 เหลือฟันใช้งานไม่ถึง 20 ซี่ และจากผลการสำรวจ สภาวะทันตสาธารณสุข ปี 2560 พบว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีการสูญเสียฟันสูงที่สุด โดยพบผู้สูงอายุ 60-74 ปี มีฟันแท้ใช้งานได้เฉลี่ย 19 ซี่/คน และผู้สูงอายุร้อยละ 18 ต้องการใส่ฟันเทียมบางส่วน ร้อยละ 6.5 ต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปาก และมีความต้องการใส่ฟันเทียมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเป็นร้อยละ 18.9 ในผู้สูงอายุ 80-85 ปี

“ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่เหลือฟันแท้น้อยกว่า 20 ซี่ และใส่ฟันเทียมทดแทน ต้องถอดออกมาทำความสะอาด หลังกินอาหารทุกมื้อ ก่อนนอนให้ถอดออกแช่น้ำสะอาดทุกครั้ง และควรไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสภาพฟัน เหงือก รวมทั้งเนื้อเยื่อในช่องปากและซ่อมเสริมฟันเทียมให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีอยู่เสมอ ไม่หลวมหรือคมจนเหงือกและลิ้นเป็นแผล เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เด็กจนเข้าสู่วัยสูงอายุ จะช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ นอกจากนี้ ควรลดกินอาหารหวาน เหนียว เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะเกาะติดผิวฟันเป็นเวลานาน ทำความสะอาดยาก เสี่ยงเกิดฟันผุ และควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันแตกขณะเคี้ยวได้ ให้เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใยแทน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image