ปลัด สธ.สั่ง รพ.ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จ.อุทัยฯ เตรียมแผนจัดบริการสำรองรับมือหากเกิดผลกระทบ
วันนี้ (21 ตุลาคม 2564) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 3 และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ที่โรงพยาบาล (รพ.) อุทัยธานี จ.อุทัยธานี พร้อมมอบถุงยังชีพและชุดยาผู้ประสบภัยให้กับประชาชนในชุมชนเกาะเทโพ
นพ.เกียรติภูมิ ให้สัมภาษณ์ว่า จ.อุทัยธานี เป็นพื้นที่ลุ่ม ประสบภัยน้ำท่วมตามธรรมชาติเป็นประจำ หลังทราบข่าวว่าเขื่อนทับเสลามีปริมาณน้ำเกินความจุ จึงลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์จริง พบว่า มี 7 อำเภอ 33 ตำบล 93 หมู่บ้าน 2,773 หลังคาเรือน และประชาชน 7,077 คน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้รับผลกระทบ 1 คน และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 398 คน โดย อ.เมืองอุทัยธานี ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ยังไม่มีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบ สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ได้กำชับเป็นระยะให้สถานพยาบาลในสังกัดที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เช่น แผนเคลื่อนย้าย/ส่งต่อผู้ป่วย ขนย้ายเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ไว้ในที่ปลอดภัย สำรองยา เวชภัณฑ์ และทรัพยากรที่จำเป็นให้เพียงพอ รวมถึงจัดหาสถานที่สำรองสำหรับจัดบริการไม่ให้กระทบบริการประชาชน โดยในส่วน จ.อุทัยธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุทัยธานี ได้จัดเตรียมยาและสิ่งของจำเป็นในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ได้แก่ คลอรีนเม็ด 48 กระปุก ถุงแดงสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ 160 กิโลกรัม ปูนขาว 56 ถุง น้ำยา อ.31 สำหรับทดสอบคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำ รวมถึงเตรียม ยาทาน้ำกัดเท้า 1,900 หลอด ยาชุดผู้ประสบภัย 664 ชุด และประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน
“ทั้งนี้ ในช่วงน้ำท่วมขอให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม โดยเฉพาะโรคที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด เช่น ตาแดง ท้องร่วง น้ำกัดเท้า และฉี่หนู หากเจ็บป่วยขอให้ไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และต้องไม่ลืมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ด้วย” ปลัด สธ.กล่าว
