แพทย์เตือนภัยสูดดมก๊าซหัวเราะต่อเนื่อง เสี่ยงมีผลต่อระบบประสาท-สมอง

วันที่ 16 พ.ย.นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า “ก๊าซหัวเราะ” หรือมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide) เป็นก๊าซที่มีการนำมาใช้ในทางการแพทย์มากกว่า 150 ปี โดยใช้เป็นยาดมสลบสำหรับการทำหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีใช้เป็นส่วนหนึ่งของยานำสลบร่วมกับการใช้ยาสลบชนิดอื่นๆ โดยวิสัญญีแพทย์ นอกจากนั้น ยังใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยทั่วไป ซึ่งที่ทุกคนรู้จักคือ ก๊าซผสมกับครีมเพื่อผลิตเป็นวิปครีมในเครื่องดื่มและขนม จึงทำให้มีบรรจุภัณฑ์อัดก๊าซไนตรัสออกไซด์ขายโดยทั่วไป

“แต่การใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อความสนุกสนานในหมู่นักท่องเที่ยว เพื่อหวังผลเรื่องความเคลิ้มสุข อาจจะส่งผลเสียต่อระบบประสาท ระบบไหลเวียนและกล้ามเนื้อหัวใจได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผู้ปกครองหรือแม้แต่นักท่องเที่ยว จึงควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่จะตามมาจากการใช้สารดังกล่าว” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลเสียต่อระบบประสาทโดยตรง โดยก๊าซไนตรัสออกไซด์จะไปขัดขวางระบบเมตาบอลิซึมของวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนในโครงสร้างและการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสดงทางระบบประสาทคล้ายกับผู้ป่วยที่ขาดวิตามินบี 12 ได้ อาทิ ไม่สามารถยืน หรือเดินทรงตัวได้ เนื่องจากระบบประสาทรับความรู้สึกในการทรงตัวเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นจากเส้นประสาทส่วนปลายที่รับความรู้สึกเอง หรือไขสันหลังส่วนที่ควบคุมการทรงตัว

หากเป็นมากขึ้น อาจจะทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์หรือเป็นอัมพาตได้ และหากเกิดความเสียหายต่อปลอกประสาทในสมอง จะทำให้มีอาการคิดช้า พูดช้า หรือหากเป็นมากอาจจะทำให้มีอาการความจำหรือสมองเสื่อมได้ ซึ่งความผิดปกตินี้ จะไม่สามารถให้การรักษาด้วยยาชนิดใดได้ ต้องใช้วิธีหยุดการสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่อาจจะมีอาการดีขึ้น แต่หากเป็นมาก อาจจะไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับไปเป็นปกติได้ จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์โดยตรง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image