“กรมการแพทย์” เผยรอ “บัญชีกลาง” ตรวจสัญญาซื้อโมลนูพิราเวียร์ คาดได้ยาต้นปีหน้า
วันนี้ (16 พ.ย.64) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดหายารักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โมลนูพิราเวียร์ ว่า มีความคืบหน้า โดยขณะนี้ได้ส่งร่างสัญญาการจัดซื้อให้กรมบัญชีกลางพิจารณา คาดว่าใช้เวลาอีก 3-4 วัน หากกรมบัญชีกลางพิจารณาแล้วเสร็จก็สามารถดำเนินการสั่งซื้อได้ทันที และคาดว่าไทยจะได้ยาในต้นปี 2565 ส่วนยาแพกซ์โลวิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างสัญญาจัดซื้อ
นพ.สมศักดิ์ กล่าวถึงสถานการณ์การบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ถือว่าดีขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตลดลง การพบผู้ติดเชื้อในช่วงนี้อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลง ทำให้โรงพยาบาล (รพ.) สนาม และฮอสปิเทลทยอยปิดตัว
“ส่วน รพ.สนามเลิดสิน ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และตั้งใจไว้รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง แต่ขณะนี้ก็มีรับผู้ป่วยเข้ามาส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ การดำเนินงานใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่น่าห่วง เพราะมีการจับคู่กันระหว่าง รพ.เอกชน กับโรงเรียนแพทย์ ส่วนในต่างจังหวัดก็มีการนำทรัพยากรหรือบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปช่วยเติมในส่วนที่ขาด เช่น เชียงใหม่ ปัตตานี ฯลฯ ที่มีการระบาดและพบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น โดยส่วนกลางได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาลออกไปช่วยหมุนเวียน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มองว่าต่อไปในอนาคตทุกคนต้องอยู่กับโควิด-19 เพราะการหยุดกิจกรรม หรือปิดเมือง จะเกิดปัญหาทำให้คนไม่มีงานทำ และหากไม่พบว่าเชื้อโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ เชื่อว่าจากนี้ไปน่าจะรับมือได้ เพียงแต่ขอให้ทุกคนเข้ารับวัคซีน และเมื่อไปทำงาน หรือทำกิจกรรมนอกบ้านต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยแอนตอเจน เทสต์ คิท (ATK) และคงมาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาลอย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด
