‘ศบค.’ พบคนไทยยังไม่ฉีดวัคซีนกว่า 11 ล้านคน เร่งฉีดเพิ่มใน 10 จว.

‘ศบค.’ พบคนไทยยังไม่ฉีดวัคซีนกว่า 11 ล้านคน เร่งฉีดเพิ่มใน 10 จังหวัดค่าเฉลี่ยต่ำ-กลุ่มหญิงตั้งครรภ์

แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น 659,381 โดส ส่งผลให้มีผู้ได้รับสะสม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 86,071,507 โดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 45,700,036 ราย คิดเป็น 63.4% เข็ม 2 จำนวน 37,527,295 ราย คิดเป็น 52.1% และเข็ม 3 จำนวน 2,844,176 ราย คิดเป็น 3.9% ซึ่งเป้าหมายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ควรได้รับเข็ม 1 ครอบคลุมประชากรไม่น้อยกว่า 70% แต่จากการประเมินอัตราการฉีดวัคซีนเข็ม 1 น้อยกว่าเข็ม 2 เกือบครึ่งหนึ่ง และจากการสำรวจ พบว่า มีผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 11 ล้านคน จึงอยากขอความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ช่วยกันเร่งรัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการระบาดในหลัก 10 หรือหลัก 100 รายต่อวัน โดยมี 10 จังหวัดที่คัดเลือกออกมาในจังหวัดที่มีการระบาด ได้แก่ จังหวัดตาก ราชบุรี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้รีบดำเนินการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในระดับรุนแรง และลดความเสี่ยงของโอกาสการเสียชีวิตให้มากที่สุด เนื่องจากค่าเฉลี่ยการได้รับวัคซีนเข็มแรกของทั้ง 10 จังหวัด อยู่เพียง 56% เท่านั้น

แพทย์หญิงสุมณี กล่าวว่า หากแยกตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งรัดในการฉีดวัคซีน คือหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งครอบคลุมเข็มแรกเพียง 17.7 % โดยสามารถขอรับวัคซีนในสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ได้ทันที ซึ่งอายุครรภ์ที่เหมาะสมในการขอรับวัคซีน อยู่ที่ 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงกรณีการคีย์ข้อมูล ที่พบว่ามีประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว แต่ยังไม่พบข้อมูลในระบบ หรือมีประวัติการได้รับวัคซีนที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนแจ้งจุดที่รับบริการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของตัวประชาชนเองในอนาคต ที่หากต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนในกรณีหรือสถานที่ต่างๆ อาทิ การขึ้นเครื่องบิน หรือการเดินทางข้ามจังหวัด หากเจ้าหน้าที่ขอดูข้อมูลจะได้สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image