อัศวิน เผยนับแต่ 1 มกราฯ เอไอพบฝ่าฝืนกฎจราจรใน กทม.วันละพันราย ชง ตร.จับปรับจริงจัง!

อัศวิน เผยนับแต่ 1 มกราฯ เอไอพบฝ่าฝืนกฎจราจรใน กทม.วันละพันราย ชง ตร.จับปรับจริงจัง!

เมื่อวันที่ 26 มกราคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน โดยข้อความระบุว่า ต้องขยายการ “จับ” “ปรับ” ถึงเปลี่ยนจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนให้ได้

พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินข้ามถนน บริเวณหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เป็นการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ และกระทบต่อความรู้สึกของพวกเราทุกคน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะตรงนั้นเป็นทางม้าลาย จุดที่หลายคนคิดว่าปลอดภัยสำหรับการข้ามถนน แต่กลับเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุและยังมีอีกหลายทางม้าลายที่เกิดเหตุเช่นนี้

“ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ในถนนมีทางม้าลายเพื่อให้คนข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้แก้ไขปรับปรุงจุดที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนทางม้าลาย ด้วยการเพิ่มสัญลักษณ์เตือน เช่น ทาสีทางม้าลายให้เห็นเด่นขึ้น ตีเส้นชะลอความเร็วแบบสั่นสะเทือน หรือเส้นซิกแซกในช่องจราจรก่อนถึงทางม้าลายเพื่อให้คนขับรถเพิ่มความระมัดระวังขึ้น แต่ก็ยังมีคนขับรถบางส่วนที่เมินเฉยสัญลักษณ์เตือนของทางม้าลาย จงใจที่จะฝ่าฝืนกฎจราจร ความสูญเสียจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าผู้ที่ฝ่าฝืน มีจิตสำนึก และตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนร่วมกัน” พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ขับรถที่ยังฝ่าฝืนกฎจราจรอยู่ อาจแก้ไม่ได้ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ บริเวณแยกอโศก ที่มีปัญหาการฝ่าฝืนกฎจราจรเป็นจำนวนมาก ซึ่ง กทม.พยายามจะใช้เป็นต้นแบบของความปลอดภัยทั้งคนข้ามถนน และผู้ใช้รถ โดยการปรับสภาพพื้นผิวทางเท้า ถนน และทางเชื่อมต่อให้สะดวกต่อคนข้ามถนนทุกกลุ่ม และปรับปรุงทางม้าลายให้ด้วยการทาสีแดงให้เด่นขึ้น ขยายช่องจอดของรถจักรยานยนต์เพื่อรอสัญญาณไฟแดง เพิ่มไฟส่องสว่าง ทำให้แยกอโศก เป็นแยกที่มีความพร้อมทางกายภาพที่จะสร้างความปลอดภัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนได้จริง มีผู้ฝ่าฝืนตั้งแต่เริ่มโครงการจับปรับด้วยเทคโนโลยี AI วันที่ 1 มกราคม 2565 กว่า 25,000 ราย หรืออาจเฉลี่ยวันละ 1,000 ราย ซึ่งแม้จะมีที่จอดติดไฟแดงเหลือว่างมากมาย แต่ก็ยังมีการจอดทับทางม้าลาย

Advertisement

“ดังนั้น การแก้ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ การแก้จิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น และใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้อยลง ก็คือ เมื่อมีคนจอดรถทับทางม้าลาย จะไม่มีตำรวจเรียกรถเพื่อจับปรับ แต่จะใช้กล้องวงจรปิดเทคโนโลยี AI เป็นตัวช่วยจับรถยนต์รถจักรยานยนต์ที่ยังจอดทับเส้น โดยกล้องจะสแกนแผ่นป้ายทะเบียนอัตโนมัติ มีหลักฐานภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ส่งไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจจับปรับตามกฎหมาย ออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ส่งไปถึงหน้าบ้านเลย เป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยบังคับใช้กฎหมายได้ 100% วิธีการนี้จะทำให้ผู้ที่ชอบฝ่าฝืนเกิดความเกรงกลัว และหากเกิดขึ้นหลายๆ แยกของกรุงเทพฯ จะทำให้สามารถปรับพฤติกรรมหมู่ในกรุงเทพฯ หากใช้ได้ผล กทม.ก็จะผลักดันให้ถูกนำไปใช้แก้ไขปัญหาในทุกแยกและทุกทางม้าลายทั่วกรุงเทพฯ อีกต่อไป” พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ

ผู้ว่าฯ กทม.ระบุอีกว่า ในวันที่ 28 มกราคมนี้ กทม. จะนำเสนอโมเดลนี้ให้กับตำรวจให้นำมาใช้เพิ่มเติมอีก 10-20 แยก และอีกหลาย ทางข้าม รวมทั้งเตรียมขยายต่อให้เกิดขึ้นอีกหลายๆ แยกในกรุงเทพฯ ในอนาคต เพื่อที่จะทำให้เกิดการจับ ปรับ และเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ที่ฝ่าฝืนวินัยการจราจรให้ได้

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image