กทม.พร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์กลุ่ม 5 – 11 ปี กว่า 1.3 แสนคน ต้น ก.พ.นี้
วันนี้ (26 มกราคม 2565) นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ได้รับเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว ว่า กทม.โดยสำนักการศึกษา ได้ประสานสำนักงานเขต เพื่อแจ้งโรงเรียนในสังกัด กทม. ที่เปิดสอนในระดับอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 431 โรงเรียน สำรวจและรวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 5 – 11 ปี ทั้งนี้ มีนักเรียนแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ รวม 130,922 คน เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนสำหรับนักเรียนกลุ่มดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้นักเรียนได้ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
“ขณะเดียวกันได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักอนามัย กทม. เพื่อนัดหมายวัน เวลา ตลอดจนจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ในการให้บริการฉีดวัคซีนแก่เด็กนักเรียน นอกจากนั้น ยังได้วางแผนดำเนินการที่จะฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน ณ สถานที่ของโรงเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนและผู้ปกครองในการพาบุตรหลานเข้ารับบริการฉีดวัคซีน โดยสำนักการแพทย์ กทม.ได้จัดเตรียมรถฉุกเฉินทางการแพทย์ในกรณีที่ต้องส่งต่อนักเรียนที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไปยังสถานพยาบาลที่กำหนดไว้” นายเกรียงไกร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวว่า โรงเรียนในสังกัด กทม.ทุกแห่ง ได้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและให้คำแนะนำผู้ปกครองติดตามข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และประสานขอความร่วมมือผู้ปกครองตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) รวมทั้งคัดกรองบุตรหลานก่อนพาไปโรงเรียน หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นๆ ให้นักเรียนหยุดเรียน เพื่อเฝ้าดูอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ โดยแจ้งข้อมูลการเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม. รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการ เข้มสำหรับสถานศึกษา
ด้าน นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า สำนักการแพทย์ ได้เตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มเด็ก เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงเดือน กุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งแนะนำให้ผู้ปกครองจัดกิจกรรมออกกำลังกายในบ้าน เพื่อให้เด็กได้ผ่อนคลาย ไม่เกิดความเครียดที่ต้องอยู่บ้าน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนในทุกพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และงดการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ชุมชน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วย จึงไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อและสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ รวมทั้งเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันให้ครบ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปสู่คนในครอบครัว
