ตลาดสดเสี่ยงคลัสเตอร์โควิด กรมอนามัยแนะ ปชช.ลดใช้เงินสด-เว้นระยะห่าง

ตลาดสดเสี่ยงคลัสเตอร์โควิด กรมอนามัย แนะ ปชช.ลดใช้เงินสด-เว้นระยะห่าง

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงแนะนำผู้ค้าและประชาชนที่เข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 หัวข้อ “ตลาด-จับจ่ายปลอดภัย ด้วยมาตรการ COVID Free Setting” ว่า จุดเสี่ยงในตลาดที่อาจทำให้ติดเชื้อโควิด-19 คือ 1.การสัมผัสธนบัตร เหรียญ 2.การสัมผัสผักและผลไม้ 3.การสัมผัสเนื้อสัตว์ 4.มีเชื้อโรคปะปนกับถุงพลาสติก และ 5.ไม่มีการเว้นระยะห่างระหว่างใช้บริการ อย่างไรก็ตาม หากผู้ค้าผู้ขายที่ค้าขายในตลาดมีการล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสจุดเสี่ยงต่างๆ ก็จะลดโอกาสเสี่ยงได้ ที่สำคัญขอให้สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในตลาดตลอดเวลา

นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การประเมินตนเองและผลการประเมินของตลาดสด หรืออาหารริมบาทวิถี หรือกิจการคล้ายคลึงกัน พบว่ามาตรการที่ทำได้มากที่สุด คือ การทำความสะอาดแผงจำหน่ายอาหารทุกวัน และล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาล 1 ครั้งต่อสัปดาห์ รองลงมา จัดให้มีการระบายอากาศที่เพียงพอ มีการกำกับให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด กำหนดทางเข้าออกและจุดคัดกรอง และมีการทำทะเบียนแผงค้า ผู้ขายผู้ช่วยขายที่เข้ามาจำหน่ายสินค้า

อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า หลายตลาดทำเรื่องนี้ได้ดี ส่วนกรณีการกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบ ติดตามไทม์ไลน์ผู้ขายทุกรายและจัดพนักงานควบคุม เนื่องจากประสบการณ์กรณีการระบาดเมื่อครั้งตลาดที่ จ.สมุทรสาคร และอีกหลายตลาด พบว่าเวลามีการติดเชื้อของคนในตลาด ซึ่งหากไม่มีการติดตามไทม์ไลน์ ย่อมตอบสนองต่อเหตุการณ์ในการระบุผู้ติดตามเสี่ยงสูงได้ไม่ครอบคลุมและไม่ทันเวลา ประเด็นนี้ จึงต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ กำหนดให้มีผู้ติดตามไทม์ไลน์ เพราะจะมีประโยชน์มาก

“ส่วนมาตรการที่ยังดำเนินการได้ไม่ดีมาก พบว่า เป็นเรื่องการคัดกรองความเสี่ยงผู้รับบริการด้วย Thai Save Thai หรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ซึ่งตรงนี้ยังไม่เคร่งครัดในการปฏิบัติ การจัดพนักงานควบคุมจำนวนคนไม่ให้แออัด คือ ไม่เกิน 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร แต่ทางปฏิบัติในบางแผงการตลาด บางเวลายังมีความแออัด แต่บางตลาดก็มีการเตือนให้สลับ ให้เว้นระยะห่าง แต่มีบางตลาดก็ละเลยตรงนี้ ไม่ได้เข้มรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร และยังพบการชำระเงินด้วยธนบัตรและเหรียญ แต่หลายตลาด หรือร้านริมบาทวิถีก็ใช้วิธีชำระเงินผ่านแอพพ์ ซึ่งช่วงนี้รัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี ยังช่วยการชำระเงินผ่านระบบแอพพ์ โครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะลดความเสี่ยงการสัมผัสระหว่างการซื้อขายได้” นพ.สุวรรณชัยกล่าว และว่า ขอย้ำว่าตลาดที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ขอให้รีบปรับปรุงจะได้ผ่านเกณฑ์มากขึ้น

Advertisement

นพ.สุวรรณชัยกล่าวถึงข้อมูลจากอนามัยโพลว่า จากการสังเกตผู้ไปใช้บริการตลาด เมื่อวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ตอบแบบสำรวจ จำนวน 7,000 คน พบว่า พฤติกรรมการสวมหน้ากากถูกต้อง มีร้อยละ 81 ไม่ถูกต้อง ร้อยละ 19 ขณะที่การปฏิบัติมาตรการต่างๆ พบว่า ทำได้ดีถึงร้อยละ 78.12 ด้วยการกำหนดจุดเข้าออกชัดเจนและวัดอุณหภูมิ และอีกร้อยละ 51.22 มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ และร้อยละ 46.03 มีการประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาอย่างถูกต้อง

“ส่วนที่ต้องปรับปรุงจากการสังเกตของประชาชนที่ตอบแบบสำรวจ พบว่าร้อยละ 15.68 ควรแสดงใบประกาศ COVID Free Setting ที่ตลาดให้ชัดเจน และร้อยละ 17.75 ต้องมีภาชนะรองรับขยะมีฝาปิดมิดชิด รวมทั้ง ร้อยละ 20.26 มองว่าต้องมีการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัดและเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรขอให้ปฏิบัติมาตรการ COVID Free Setting 3 ด้าน ได้แก่ ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ด้านผู้ให้บริการและด้านผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งให้มีการกำกับติดตาม และดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อให้สามารถควบคุมได้ในขอบเขตของพื้นที่ตลาด ลดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ซ้ำ และการดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ โควิด-19 ในตลาด ต้องมีการซักซ้อม สร้างความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งการปิดตลาดก็ต้องดำเนินการตามแนวทาง ไม่ใช่ปิดหมด ต้องดำเนินการตามความจำเป็น เพราะหากปิดหมด อาจยิ่งทำให้ผู้ขายที่เสี่ยงอาจกระจายตัวไปยังตลาดพื้นที่อื่นๆ ได้” นพ.สุวรรณชัยกล่าว

ด้าน นายเก่งกาจ คุปต์อัครภิญโญ ผู้แทนสมาคมตลาดสดไทย กล่าวว่า ตลาดได้มีการจัดระเบียบตลาดช่วงสถานการณ์โควิด-19 และยังมีการอบรมให้ผู้ค้าเข้าใจแนวปฏิบัติป้องกันโควิด-19 ในตลาด นอกจากนี้ ยังมีการตรวจ ATK กับผู้ค้าทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ค้าในตลาดได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ค่อนข้างมาก อย่างน้อย 2 เข็ม สำหรับการล้างทำความสะอาดตลาดปกติจะ 1 ครั้งต่อเดือน แต่ปัจจุบันทำมากขึ้นอย่างบางแห่งทุก 15 วัน ทั้งนี้ สมาคมตลาดสดไทยพยายามดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting และขอเชิญชวนบางตลาดที่อาจขาดความรู้ ทำได้ไม่ดีพอ ขอให้เชิญชวนทุกคนร่วมมือปฏิบัติตามแนวทางรัฐบาล

Advertisement

“ตลาดทุกแห่งเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เหตุการณ์ครั้งนี้เราได้เข้าถึงชุมชนมากขึ้น มีการประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีน ไม่ใช่แค่ผู้ค้าในตลาด แต่รวมถึงรอบบริเวณชุมชน เพราะตลาดอย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยก็จะเป็นคนอยู่ในชุมชนใกล้ๆ ตลาด จึงต้องประชาสัมพันธ์รวมทั้งลูกค้าและผู้ค้าในตลาด” นายเก่งกาจกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image