กทม.เร่งฟื้นฟูคลองแสนแสบ สำรวจ รง.ทิ้งน้ำเสีย-ปชส.สร้างความเข้าใจกับชุมชน

กทม.เร่งฟื้นฟูคลองแสนแสบ สำรวจ รง.ทิ้งน้ำเสีย-ปชส.สร้างความเข้าใจกับชุมชน

วันนี้ (9 ก.พ.65) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาคลองแสนแสบ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม. พร้อมด้วยเลขานุการคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวกับการพัฒนาคลอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง)

นายขจิต กล่าวว่า ในที่ประชุม สำนักการระบายน้ำรายงานความคืบหน้าการสำรวจแหล่งกำเนิดน้ำเสียริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ระหว่างวันที่ 1-8 กุมภาพันธ์ 2565 พบปริมาณแหล่งกำเนิดน้ำเสียริมคลองในพื้นที่ รวม 400 แห่ง แบ่งเป็น สถานที่จำหน่ายอาหาร 57 แห่ง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 70 แห่ง อาคารบ้านเรือน 273 แห่ง ประกอบด้วย เขตปทุมวัน 49 แห่ง แบ่งเป็น สถานที่จำหน่ายอาหาร 40 แห่ง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 9 แห่ง เขตวังทองหลาง 29 แห่ง แบ่งเป็น สถานที่จำหน่ายอาหาร 1 แห่ง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 2 แห่ง อาคารบ้านเรือน 26 แห่ง เขตสวนหลวง 283 แห่ง แบ่งเป็น สถานที่จำหน่ายอาหาร 10 แห่ง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 43 แห่ง อาคารบ้านเรือน 230 แห่ง เขตสะพานสูง สถานที่จำหน่ายอาหาร 1 แห่ง และเขตหนองจอก 38 แห่ง แบ่งเป็น สถานที่จำหน่ายอาหาร 5 แห่ง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 16 แห่ง อาคารบ้านเรือน 17 แห่ง ส่วนในพื้นที่เขตอื่น สำนักงานเขตและสำนักการระบายน้ำ อยู่ระหว่างการสำรวจ โดยกำหนดระยะเวลาการสำรวจแหล่งกำเนิดน้ำเสียริมคลองแสนแสบและคลองสาขาในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2565

Advertisement

“พร้อมทั้งแจ้งข้อสั่งการของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) จากการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ขอให้ กทม.กำชับดูแลไม่ให้สถานประกอบการและโรงงานขนาดใหญ่ ทิ้งน้ำเสียลงคลองแสนแสบ และรณรงค์ให้ประชาชนริมคลองแสนแสบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงคลอง เพื่อลดค่าความสกปรก (BOD) ให้ต่ำที่สุด และขอให้ กทม.เร่งดำเนินการตามแผนระยะยาวในการรวมน้ำเสียเข้าโรงบำบัดที่มีอยู่เดิมกับโรงบำบัดที่ก่อสร้างใหม่ และข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จากการประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ให้ กทม. ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ดำเนินการตรวจสอบและประชาสัมพันธ์แหล่งกำเนิดน้ำเสียริมคลองแสนแสบและคลองสาขา รัศมี 500 เมตร จากริมฝั่ง ให้รับรู้ถึงผลเสียและรณรงค์ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนทิ้งลงแม่น้ำลำคลอง ให้ กรอ. ร่วมกับ กทม. และ คพ. ดำเนินการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม โดยบังคับใช้กฎหมายให้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียทุกโรงงาน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และรายงานผลในการประชุมครั้งต่อไป ขอให้ กทม. ดำเนินการขุดลอกและขยายคลองแสนแสบให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 และผังน้ำที่ สทนช. ศึกษาโครงการวงเงินสูง เป็นที่สนใจของประชาชน ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดและสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทราบความก้าวหน้าและการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ” นายขจิต กล่าว

ปลัด กทม.กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานประชาสัมพันธ์ ได้เสนอแผนดำเนินการจัดกิจกรรม On ground ชุมชนต้นแบบริมคลองแสนแสบและคลองสาขา โดยจะประสานสำนักงานเขตเพื่อประเมินศักยภาพและความพร้อมในการจัดกิจกรรม สำหรับรูปแบบกิจกรรมจะกำหนดอีกครั้ง คาดว่าจะดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นี้ เบื้องต้นกำหนดจัดกิจกรรมในชุนชนทางเลือกกลุ่มคลองแสนแสบ ณ ชุมชนสุเหร่าบ้านดอน เขตวัฒนา ชุมชนกมาลุลอิสลาม เขตคลองสามวา ชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์ เขตมีนบุรี และชุนชนทางเลือกกลุ่มคลองลาดพร้าว ณ ชุมชนร่วมใจพิบูล 2 เขตห้วยขวาง และชุมชนหลัง วค. จันทรเกษม เขตจตุจักร

Advertisement

นายขจิต กล่าวว่า ได้มอบหมายสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับ คพ. และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการ มท. และรองนายกฯ โดยเร่งตรวจสอบการบำบัดน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมประเภท 1 และ 2 ในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์รณรงค์แหล่งกำเนิดน้ำเสียริมคลองแสนแสบและคลองสาขา รัศมี 500 เมตร ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนทิ้งลงแม่น้ำลำคลอง พร้อมทั้งมอบหมายสำนักงานเขต 21 เขต ที่มีพื้นที่ริมคลองแสนแสบ สำรวจชุมชนริมคลองแสนแสบตลอดแนว โดยบูรณาการความร่วมมือกับจิตอาสา กองทัพภาคที่ 1 คพ. และกระทรวงอุตสาหกรรม ในการตรวจสอบการทิ้งน้ำเสียจากชุมชน รวมถึงแนวทางการบำบัดน้ำเสียและการติดตั้งบ่อดักไขมัน โดยเน้นการเจรจาสร้างความเข้าใจ และให้เขตจัดทำแนวทางการบำบัดน้ำเสียของบ้านเรือนก่อนปล่อยทิ้ง จากนั้นประสานสำนักงานประชาสันพันธ์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image