ปลัดแรงงาน ยันแอมเนสตี้ยื่นขอดำเนินการต่อในไทยจริง! ตั้ง กก.พิจารณาตามระเบียบ
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2565) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากที่มีกระแสข่าวว่า องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty Internationl Limited หรือ AI) ได้ยื่นขอใบอนุญาตให้เข้ามาดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศต่อกระทรวงแรงงานนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เนื่องจากใบอนุญาตที่ออกให้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ได้ครบกำหนดอายุใบอนุญาตเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 การพิจารณาอนุญาตดังกล่าวจะพิจารณาโดยคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศ ซึ่งมีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เป็นกรรมการและเลขานุการ
“คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมขององค์การเอกชนต่างประเทศให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ภายใต้ระเบียบกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ว่าด้วยการเข้ามาดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศในประเทศไทย พ.ศ.2541 และระเบียบคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศในประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้ามาดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศในประเทศไทยและการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย พ.ศ.2543 ซึ่งองค์การที่ได้รับอนุญาตต้องดำเนินงานโดยไม่หวังผลกำไร หรือไม่มุ่งหวังผลทางการเมือง คือการไม่ดำเนินกิจกรรม หรือโครงการใดๆ ที่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง ไม่ว่าในลักษณะใดที่เป็นการชี้นำ ครอบงำ หรือโน้มน้าว ซึ่งอาจจะกระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือละเมิดกฎหมายไทยและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ” นายบุญชอบกล่าว
ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ที่ผ่านมา กกจ.ได้มีหนังสือถึงผู้จัดการสำนักงานและการเงิน องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานขององค์การเอกชนต่างประเทศ ในการขอความร่วมมือดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยความระมัดระวังและเป็นกลาง ดำเนินกิจกรรมกับทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค ไม่ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและให้ประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดส่งรายงานผลการดำเนินงานเป็นประจำทุก 6 เดือน ซึ่งองค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ได้ส่งรายงานผลการดำเนินงานตามที่กำหนด นอกจากนี้ ยังมีคำแถลงการณ์ บทวิพากษ์วิจารณ์ ข่าวสาร วิดีโอต่างๆ ขององค์การ ได้เผยแพร่ในช่วงระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการยุติธรรม ขบวนการนิติบัญญัติ และภาพลักษณ์ของรัฐบาลไทยหรือไม่ ประกอบการพิจารณาด้วย
