สธ.จัดเวทีกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ สุรินทร์ เริ่ม! 4 มี.ค.นี้

สธ.จัดเวทีกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ สุรินทร์ เริ่ม! 4 มี.ค.นี้

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ.มีนโยบายขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งตั้งแต่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 นับเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่สามารถทำให้ผู้ป่วยเกือบแสนรายเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยากัญชาที่มีคุณภาพและความปลอดภัย และช่วยสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ เนื่องจากมีการจัดระบบและพัฒนามาตรฐานตั้งแต่การปลูก การผลิต การสกัด และการใช้ ทำให้มีกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกกัญชาให้กับสถานพยาบาลในสังกัด สธ.กว่า 350 กลุ่ม และปลูกกัญชงกว่า 1,500 กลุ่ม

ปลัด สธ. กล่าวว่า ยังมีการจัดทำแนวทางการรักษาด้วยยากัญชา ทั้งยาสารสกัดและยาตำรับแพทย์แผนไทย และกำหนดไว้ในแผนการจัดบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข มีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์และประเมินผลการรักษา จัดทำเป็นงานวิจัยทางคลินิกตีพิมพ์กว่า 10 ฉบับ ทำให้ สธ.มั่นใจที่จะผลักดันกัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยล่าสุดมีการออกประกาศรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ.2565 ที่ถอดกัญชากัญชงออกจากยาเสพติด ยกเว้นสารกัดที่มีสารทีเอชซี (THC) เกิน ร้อยละ 0.2

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือ การสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และผู้ประกอบการทั่วประเทศ  สธ.จึงร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงภาคเอกชน จัดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ เพื่อนำประสบการณ์ที่ สธ.และภาคีเครือข่ายดำเนินการในด้านการพัฒนากัญชากัญชง มากว่า 3 ปี มาถ่ายทอดให้สาธารณะได้รับทราบ รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งด้านการใช้ การวิจัย การผลิต และต่อยอดธุรกิจ โดยเริ่มแห่งแรกที่เขตสุขภาพที่ 9 จ.สุรินทร์ ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ และจัดต่อเนื่องจนครบ 12 เขตสุขภาพ ในเดือนพฤษภาคม 2565

นพ.ภูวเดช สุรโคตร ผู้ช่วยปลัด สธ. ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า การจัดงานแต่ละครั้งจะจัดต่อเนื่องถึง 3 วัน ในงานมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ การประชุมวิชาการ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ และนิทรรศการและตลาดนัดความรู้ โดยในส่วนของการประชุมวิชาการจะมี 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบวิชาชีพแผนปัจจุบัน แผนไทย และประชาชน ซึ่งมีการจัดทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการปลด “พืชกัญชา” ออกจากรายการยาเสพติดให้โทษ และเน้นให้ความสำคัญกับภาคประชาชน ตั้งแต่ข้อกฎหมาย องค์ความรู้พื้นฐานกัญชา การรักษาตนเองให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด การพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศต้องการ และการต่อยอดทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ของ สธ.ที่ให้ยึดตามความต้องการและความสนใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง สอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่ต้องสนับสนุนประชาชนระดับครัวเรือน

Advertisement

“นอกจากนี้ ยังมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาและยาได้ รวมถึงมีนิทรรศการให้ชม ชิม และซื้อผลิตภัณฑ์กัญชาของผู้ประกอบการไทยอีกด้วย ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดได้จาก เพจสถาบันกัญชาทางการแพทย์ หรือ โทรศัพท์ 0 2590 1501” นพ.ภูวเดช กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image