สภาผู้บริโภค ชง คปภ.ปรับหลักเกณฑ์เบิกค่ารักษาผู้ป่วยโควิด

สภาผู้บริโภค ชง คปภ.ปรับหลักเกณฑ์เบิกค่ารักษาผู้ป่วยโควิด

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2565) นายโชติวิทย์ เกิดสนองพงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการ อนุกรรมการด้านการเงินการธนาคาร สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่า การกำหนดแนวปฏิบัติของสมาคมประกันชีวิตไทย ที่ปรับให้สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบ Home Isolation (HI) ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 นั้น ส่งผลให้ผู้ป่วยใช้สิทธิเคลมประกันค่อนข้างยาก เนื่องจากเงื่อนไขตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทำให้ผู้ที่สามารถเคลมประกันได้จะต้องมีอาการรุนแรงแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริง ผู้บริโภคควรสามารถเคลมประกันได้เมื่อเจ็บป่วยและเข้ารักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ดังนั้น บริษัทประกันชีวิตจึงไม่ควรกำหนดเงื่อนไขที่สร้างภาระให้ผู้บริโภคเกินสมควร

“โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบ HI ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ได้มีข้อกำหนดว่า การส่งต่อหรือการเข้าเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล (รพ.) หากจะเบิกค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยรายได้จากการนอน รพ.หรือ ฮอสปิเทล ได้ ต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ข้อใดข้อหนึ่งใน 5 ข้อ ดังนี้

1.เมื่อมีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง 2.หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ 3.ปริมาณออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) น้อยกว่า 94% 4.มีโรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์ และ 5.สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็กหากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือรับประทานอาหารน้อยลง หากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยให้กักตัวที่บ้าน (HI) โดยจะเริ่มใช้แนวปฏิบัตินี้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ทำให้ผู้เอาประกันจำนวนหนึ่งไม่สามารถเรียกร้องสิทธิของตนเองได้

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคารของ สอบ. มึข้อเสนอนโยบายหรือมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) 3 ข้อ ดังนี้

Advertisement

1.บริษัทประกันภัยต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกับปี 2564 ในการเบิกค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายได้ในปี 2565 ด้วย เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด 19 แบบ HI ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ระบุว่าผู้ป่วยต้องมีสิ่งบ่งชี้ข้อใดข้อหนึ่งใน 5 ข้อ จึงสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวันได้ ซี่งผู้ป่วยโควิด-19 ปี 2564 ไม่ต้องใช้เกณฑ์นี้ในการอ้างสิทธิขอเอาประกัน ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้ป่วยที่จะขออ้างสิทธิเอาประกันในปี 2565 ทั้งที่เป็นสัญญาเดียวกัน

2.บริษัทประกันภัยต้องให้เบิกค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยการขาดรายได้ เนื่องจากการซื้อประกันชีวิตนั้น ผู้บริโภคต้องการการบริการที่ดีกว่าภาครัฐ และต้องการได้รับค่าชดเชยจากการรักษาพยาบาล หากในการซื้อประกันผู้บริโภคมีข้อมูลในการตัดสินใจว่า มีเงื่อนไขในการอ้างสิทธิขอเอาประกันเช่นนี้ ผู้บริโภคอาจจะตัดสินใจไม่ซื้อประกัน ซึ่งเป็นไปตามสิทธิผู้บริโภคที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 จึงไม่ควรนำประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบ HI มาบังคับใช้กับผู้บริโภคที่ซื้อประกันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ มาตรการของ สธ.ไม่ควรเป็นมาตรการในการอ้างสิทธิเอาประกัน

3.ขอให้ คปภ. ในฐานะเป็นนายทะเบียน บังคับใช้กฎหมาย โดยให้บริษัทประกันปฏิบัติตามสัญญาตามที่นายทะเบียนเห็นชอบ หรือนายทะเบียนสั่งให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบหรือกรมธรรม์ ตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ.2535

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image