จ้างงานคนพิการปัง! รมว.สุชาติ พาคณะขอบคุณนายกฯ มีอาชีพเกินเป้า 45%

จ้างงานคนพิการปัง! รมว.สุชาติ พาคณะขอบคุณนายกฯ มีอาชีพเกินเป้า 45%

วันนี้ (1 มีนาคม 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน นายจ้างภาคเอกชนและผู้พิการ ที่ร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประจำปี 2565 เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงความขอบคุณต่อโครงการฯที่ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำและสร้างความเสมอภาคทางสังคม โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) และคณะเข้าร่วม

นายสุชาติ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศอย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งกระทรวงแรงงานพร้อมเต็มที่ ที่จะสนองต่อนโยบายรัฐบาล ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ขจัดความเหลื่อมล้ำ โดยเน้นสร้างโอกาสแก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง และทำประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน ตลอดจนสังคมได้ ซึ่งโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2565 ถือเป็นอีก 1 โครงการของกระทรวงแรงงาน โดย กกจ.ที่สร้างโอกาสให้คนพิการมีงานทำ และได้รับรายได้จากการทำงานโดยตรง ซึ่งเดิมกำหนดเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมประเภทจ้างเหมาบริการไว้ จำนวน 1,000 คน แต่มีการจ้างงานคนพิการตามโครงการฯ ถึง 1,450 คน เพิ่มจากเป้าหมายร้อยละ 45 ก่อให้เกิดรายได้แก่คนพิการ 165,655,250 บาทต่อปี

“โดยจากนี้ ได้เตรียมขยายการมีงานทำให้คนพิการฯ มีงานและรายได้เพิ่มขึ้นปีละ ร้อยละ 20 ภายใน 4 ปี
ขอบคุณความร่วมมือของสถานประกอบการภาคเอกชน จำนวน 187 แห่ง อาทิ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สาขาเพชรบุรีและสาขาสมุทรสาคร กลุ่มบริษัท อเด็กโก้ ประเทศไทย และบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เปลี่ยนจากการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 มาให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะพลังของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น ที่เปิดรับแนวทางใหม่ๆ เพื่อเป็นบันไดขั้นหนึ่งสู่การขจัดความเหลื่อมล้ำของสังคม” นายสุชาติ กล่าว

Advertisement

ด้านนายไพโรจน์ กล่าวว่า กกจ.รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้ดำเนินการให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งจะช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป โดยมีผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 1,450 คน ส่วนใหญ่ เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย การได้ยินหรือสื่อความหมาย ทางสติปัญญา ทางการมองเห็น และทางการเรียนรู้ ตามลำดับ ทำงานในตำแหน่งพนักงานธุรการทั่วไป พนักงานทำความสะอาด คนสวน เป็นต้น โดยหน่วยบริการสาธารณะ 3 อันดับแรกที่มีความพร้อมรับคนพิการเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ รพ.สต., อบต. และโรงเรียน ตามลำดับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image