กรมวิทยาศาสตร์ฯ จับมือเครือข่าย วิจัย-พัฒนากัญชง กัญชา ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

กรมวิทยาศาสตร์ฯ จับมือเครือข่าย วิจัย-พัฒนากัญชง กัญชา ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ในการวิจัยและพัฒนาด้านกัญชงและกัญชาของประเทศ สู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง โดยมีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2570 ณ อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์ฯ สธ.

นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ ให้เป็นประธานในพิธี กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีการดำเนินงานด้านสมุนไพรอย่างครบวงจร โดยมีกระบวนการตั้งแต่การปลูกและอนุรักษ์สายพันธุ์ การจัดจำแนกสายพันธุ์ การศึกษาวิจัยระยะพรีคลินิก การศึกษาวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่มีคุณภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อสนับสนุนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ตั้งแต่การปลูก การสกัด การวิเคราะห์ และการวิจัย เพื่อต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ และเชิงพาณิชย์ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จะเป็นการบูรณาการการทำงานและการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการศึกษาวิจัยและพัฒนาต่อยอดงานวิจัย ด้านกัญชง กัญชาอย่างครบวงจร และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บุคลากร และทรัพยากรในการวิจัยและการพัฒนา ด้านกัญชง กัญชาอย่างสร้างสรรค์ อันจะส่งผลให้เกิดการผลักดันการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า ของกัญชง กัญชาต่อไป

Advertisement

นพ.พิเชฐ กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง เป็นความร่วมมือในการศึกษาและพัฒนาระบบการปลูกกัญชาในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม ของแต่ละสายพันธุ์ให้ได้กัญชาที่มีคุณภาพสำหรับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์อ้างอิงของกัญชาพันธุ์ไทยต่อไป

“ที่ผ่านมา กรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้วิจัยเพื่อจำแนกสายพันธุ์ โดยพัฒนาพันธุ์กัญชาไทย 4 พันธุ์ดั้งเดิม ได้แก่ กัญชาพันธุ์หางกระรอก หางเสือ ตะนาวศรีก้านขาว และตะนาวศรีก้านแดง รวมทั้งศึกษาทางด้านพฤกษศาสตร์ สารพันธุกรรม และทางด้านเคมีของกัญชาแต่ละพันธุ์ ซึ่งผลจากการศึกษา พบว่า กัญชาพันธุ์ไทยนั้น มีลักษณะเด่นถึง 3 แบบ คือ แบบที่ 1 คือ กัญชาพันธุ์ที่ให้สารทีเอชซี (THC) สูง ได้แก่ กัญชาพันธุ์หางเสือ และตะนาวศรีก้านขาว แบบที่ 2 คือ กัญชาที่ให้สารทีเอชซี และซีบีดี (CBD) ในสัดส่วนที่เท่ากัน ได้แก่ กัญชาพันธุ์หางกระรอก และแบบที่ 3 คือ กัญชาที่ให้สารซีบีดีสูง ได้แก่ กัญชาพันธุ์ตะนาวศรีก้านแดง ซึ่งกัญชาแต่ละสายพันธุ์ที่ให้สารสำคัญในสัดส่วนที่ต่างกันนั้น ก็จะมีการบ่งใช้หรือเหมาะกับการรักษาโรคที่ต่างกันอีกด้วย” นพ.พิเชฐ กล่าวและว่า ขณะนี้ ได้ดำเนินการศึกษาเทคนิคการปลูกกัญชาให้มีคุณภาพดีและสารสำคัญสูง ในโรงเรือนแบบกรีน เฮ้าส์ (Green House) และได้รับจดทะเบียนรับรองสายพันธุ์เพื่อเป็นสายพันธุ์อ้างอิงของประเทศไทยแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image