กทม.เร่งแก้ไขปมผู้ป่วยโควิดตกค้างเข้าสู่ระบบการรักษา

กทม.เร่งแก้ไขปมผู้ป่วยโควิดตกค้างเข้าสู่ระบบการรักษา

วันนี้ (10 มี.ค. 65) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานของ EOC เขต ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ผู้บริหาร กทม. ผู้อำนวยการเขต และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผ่านระบบประชุมทางไกล ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)

พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ในที่ประชุม ได้มีการหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาผู้ป่วยโควิด-19 ตกค้าง โดยมอบหมายทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อาการไม่รุนแรง หรือที่เรียกว่ากลุ่มสีเขียว สามารถเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาล (รพ.) ตามสิทธิ ดังนี้ 1.สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่คลินิกปฐมภูมิ หรือ รพ.ในระบบ โดยไม่จำกัดพื้นที่ 2.สิทธิประกันสังคม สามารถรับการรักษาได้ที่ รพ.ที่ตนมีสิทธิอยู่ และ 3.สิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการ สามารถรับการรักษาใน รพ.ได้ทุกแห่งที่อยู่ในระบบของกรมบัญชีกลาง โดยประชาชนสามารถเข้าถึงช่องทางการรักษาในรูปแบบการรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation: HI) และแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” (Outpatient with Self Isolation : OPSI) ด้วยวิธีการวอล์ก อิน ไปยังสถานพยาบาล รวมทั้งบริการออนไลน์ผ่านช่องทางของ สปสช.1330 และศูนย์ EOC 50 สำนักงานเขต

“กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โทรเข้าระบบดูแลรักษาผ่านสายด่วน สปสช. 1330 ไม่ติด หรือเข้าระบบการรักษาแบบ HI แล้ว แต่รอหน่วยบริการติดต่อกลับนาน ในส่วนของศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง จะได้เร่งดำเนินการโทรศัพท์สอบถามประเมินอาการผู้ป่วยที่รอการตอบรับอยู่ในระบบ HI Portal และรับผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาพยาบาล (OPSI/HI) ตามความเหมาะสมต่อไป” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ยังมีการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยข้ามเขตพื้นที่ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับบางเขตที่มีจำนวนผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้จัดบุคลากร จำนวน 200 คน เพื่อโทรฯ สอบถามประเมินอาการผู้ป่วยที่ตกค้างในระบบ จำนวนกว่า 7,000 ราย และจัดส่งยาให้เบื้องต้น กรณี OPSI รายที่เหลือจะประสานแจ้งหน่วยบริการให้เร่งรับผู้ป่วยเข้ารับการดูแลต่อไป ในส่วนของศูนย์ EOC 50 สำนักงานเขต จะให้การสนับสนุนการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงเครื่องผลิตออกซิเจน จากหน่วยบริการไปยังที่พักอาศัยของผู้ป่วย การรับ-ส่ง เครื่องผลิตออกซิเจน จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปยังที่พักอาศัยของผู้ป่วยในกรณีเร่งด่วน รวมทั้งบูรณาการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมร่วมดำเนินการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยตกค้างและเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image