วัชรพงศ์ ขอ ส.ส.ก้าวไกล อย่าด้อยค่าฟาวิพิราเวียร์ ยัน สธ.ซื้อยาโควิดทุกชนิดที่ปลอดภัย
วันนี้ (21 มีนาคม) นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ และให้รัฐมนตรีว่าการ สธ.ไปหาข้อมูลให้รอบด้านว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ 2 ประเภท หนึ่งคือคนทำงาน และอีกประเภทคือ พวกที่ดีแต่พูด ดีแต่วิจารณ์ แต่ตนอยู่กับคนกลุ่มแรก เลือกอยู่กับคนทำงาน และว่า ประเทศไทยกว่าจะได้ยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้ ไปจนถึงผลิตได้เอง ก็เพราะคนทำงานช่วยกันทำให้เกิดขึ้น
“และการที่เราเลือกใช้ยานี้ เป็นยาหลัก ก็ไม่ได้ตัดสินใจโดยฉับพลันจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่มาจากการพิจารณาอย่างรอบด้านที่สุดจากผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ และแพทย์ ที่อยู่เบื้องหลังการประคองระบบสาธารณสุขไทยให้ติดกลุ่มท็อปเท็นของโลก ในวันที่นายวาโยออกมาด้อยค่ายาฟาวิพิราเวียร์ อาจจะลืมไปว่า ที่ผ่านมายาตัวนี้ที่มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเสียชีวิตของไทยให้ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับทั่วโลก” นายวัชรพงศ์กล่าว
นายวัชรพงศ์กล่าวว่า ล่าสุด ศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แบ่งศึกษาในผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 62 ราย ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ตามสูตร คือ 1,800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งในวันแรก และ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีก 4 วัน ส่วนกลุ่มที่ 2 จำนวน 31 ราย ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ติดตามจากการประเมินอาการของผู้ป่วยและวัดปริมาณไวรัสในโพรงจมูก พบว่าภายใน 14 วัน กลุ่มที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นร้อยละ 79 ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับยาอาการดีขึ้น ร้อยละ 32.3 โดยผู้ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการรักษา และในวันที่ 13 และวันที่ 28 ของการรักษาจะมีปริมาณไวรัสต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับยา แต่มีข้อจำกัดคือ หากรักษาช้าและอาการค่อนข้างหนัก ประสิทธิภาพของยาจะไม่ดีนัก
“ข้อมูลมีความชัดเจน ส่วนที่เรียกร้องกันว่าให้เอายาตัวอื่นเข้ามา ขอย้ำว่า สธ.นำเข้ามาหมด ที่มั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ล่าสุด ยาโมลนูพิราเวียร์ นำเข้ามา 2 ล้านเม็ด หรือ 5 หมื่นคอร์ส การรักษา สธ.ไม่ได้ยึดติดกับยาตัวไหนเป็นพิเศษ แต่ดูเรื่องบริหารจัดการ ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาที่ผลิตได้เอง มีเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยลดอัตราความสูญเสีย อันนี้คือเรื่องสำคัญ เรารอไม่ได้ ชั่วโมงนี้ สต๊อกต้องยาพร้อม มัวแต่เลือก อาจไม่ทันการณ์ ขอเถอะ พวกเก่งแต่ปาก สักแต่พูด กรุณาอยู่กันเงียบๆ อย่าเพิ่งมาหิวแสงหาซีนกันตอนนี้ ประเทศไทยต้องการความร่วมแรงร่วมใจ จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เสนอแนะได้ แต่อย่าใช้อคติการเมืองมานำ” นายวัชรพงศ์กล่าว
