ปลัดแรงงาน แจงลดเงินสมทบประกันสังคม ช่วยผู้ประกันตน ไม่กระทบเสถียรภาพกองทุน

ปลัดแรงงาน แจงลดเงินสมทบประกันสังคม ช่วยผู้ประกันตน ไม่กระทบเสถียรภาพกองทุน

วันนี้ (24 มีนาคม 2565) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออก 10 มาตรการ ช่วยเหลือประชาชนรวมถึงผู้ใช้แรงงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบจากการสู้รบในยูเครน หนึ่งในนั้นคือ การลดเงินสมทบประกันสังคมเพื่อช่วยเหลือนายจ้าง ผู้ประกอบการ และผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ทั้งค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ

“อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) พร้อมร่วมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งช่วยเหลือผู้ประกันตนในยามเดือดร้อนในสถานการณ์ดังกล่าว ที่จะส่งผลให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบที่ลดลงไปใช้เพิ่มกระแสเงินสดให้ผู้ประกันตนมีสภาพคล่องมากขึ้น หากลูกจ้างผู้ประกันตนติดเชื้อต้องรักษาตัวไม่สามารถประกอบอาชีพได้ทำให้ขาดรายได้ อีกทั้งมาตรการดังกล่าวจะเป็นการ ลดปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นช่วยแบ่งเบาลดภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้าง เพิ่มศักยภาพในการรักษาการจ้างงานส่งผลให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง เงินสมทบ ที่ลดลงมากกว่า 30,000 ล้านบาท จะกลายเป็นเม็ดเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ต่อไป” นายบุญชอบ กล่าว

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับประเด็นของการลดเงินสมทบ ที่เกรงว่าจะมีผลกระทบเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมในระยะยาวนั้น ขอเรียนว่ากองทุนประกันสังคมมีเงินสำรองสามารถนำมาบริหารสภาพคล่องได้ในระยะยาว และที่ผ่านมา สปส.ได้พิจารณาการลงทุน โดยนักลงทุนมืออาชีพอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ประกันตนที่เป็นเจ้าของเงินกองทุนร่วมกัน และได้มีการเปิดเผยข้อมูลผลตอบแทนของกองทุนฯ ให้ทราบทั้งรายปีและรายไตรมาส ผ่านทางเว็บไซต์ สปส. www.sso.go.th โดยการลงทุนมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ผลการบริหารกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ดอกผลสะสมจากการลงทุนกว่า 8.34 แสนล้านบาท จึงขอให้ผู้ประกันตนทุกคนเชื่อมั่นในเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมว่า มีเพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนในระยะยาวอย่างแน่นอน รวมถึงไม่กระทบกับบำนาญที่จะได้รับในอนาคต” นายบุญชอบ กล่าว

Advertisement

ด้านนายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน ในฐานะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณและติดตามการใช้งบประมาณประกันสังคม กล่าวถึงการลดเงินสมทบประกันสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตน ว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกันตนส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละประมาณ 9,000 ล้านบาท จ่ายเงินบำนาญประมาณ 3,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1.8 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันในปี 2564 ประกันสังคมได้ดอกเบี้ย และผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 70,000 ล้านบาท จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจได้ว่ามาตรการดังกล่าว ไม่กระทบต่อเงินชราภาพของผู้ประกันตนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบเงินสะสมกรณีชราภาพ ตามช่องทางผ่านเว็บไซต์ สปส.www.sso.go.th หรือที่ sso connect และทางแอพพลิเคชั่นไลน์ @ssothai สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ สายด่วน 1506 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image