อนุทินแจงปม รพ.สนามบุรีรัมย์ ชี้หน่วยงานเจ้าภาพต้องแก้ไข ยินดี จว.เดินหน้าโรคประจำถิ่น

อนุทินแจงปม รพ.สนามบุรีรัมย์ ชี้หน่วยงานเจ้าภาพต้องแก้ไข ยินดี จว.เดินหน้าโรคประจำถิ่น

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหญิงตั้งครรภ์ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เข้ารักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) สนาม แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ โดยสะท้อนสภาพความเป็นอยู่ที่น่าสลดใจ ว่า สำหรับการดูแลผู้ป่วยใน รพ.สนาม ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 50,000 คนนั้น อย่าดูเพียง 1 เคส โดยตนเป็นคนไปเปิด รพ.สนามบุรีรัมย์ ที่มีเจ้าภาพดูแลอยู่ เชื่อว่าทุกฝ่ายทำเต็มที่อยู่แล้ว

“ยิ่งเป็นเรื่องแบบนี้ ป่านนี้ประธานสนามฟุตบอลคงเรียกคนมาแก้ไขโดยด่วนแล้ว” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการทำโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว อาจจะยกเลิกสายด่วน 1330 ในระบบรักษาที่บ้าน (Home Isolation) นายอนุทินกล่าวว่า การจะทำให้โควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น มีหลักเกณฑ์มากมาย อาทิ ความพร้อมของยา ความพร้อมสถานพยาบาล จำนวนการติดเชื้อ จำนวนผู้เสียชีวิต ฯลฯ

“เราต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดีก่อน เราจะไม่ทำตามกระแส แต่จะทำตามหลักวิชาการที่ควรเป็น ดังนั้น ไม่ต้องกังวล ส่วนสายด่วน 1330 นั้น ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขณะที่หลายจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเริ่มออกมาตั้งเป้าหมายให้เกิดโรคประจำถิ่น ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ละจังหวัดต่างก็มีความพร้อม เป็นนโยบายจังหวัด สธ.ก็จะได้เร่งสนับสนุนเข้าไป ซึ่งเราอยากให้เกิดในแต่ละจังหวัดต่อๆ ไป” นายอนุทินกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่า มาตรการสำหรับสงกรานต์มีอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า หลักการง่ายๆ คือ การป้องกันตัวเองก่อนกลับบ้านช่วงสงกรานต์ (Self-Clean Up) ลดความเสี่ยงตัวเอง เริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป พร้อมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเข็มกระตุ้น ทั้งเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่รับเข็มที่ 4 นานกว่า 4 เดือนแล้ว ตรวจภูมิคุ้มกันแล้วว่ามีความเสี่ยง ก็สามารถรับเข็มบูสเตอร์ต่อไป ซึ่งเราพร้อมในเรื่องวัคซีน ส่วนเรื่องยา เราก็ให้ความมั่นใจว่าการบริหารจัดการยายังมีความคล่องตัว ไม่ขาดแคลน ไม่ขาดช่วง โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เป็นคนบริหารจัดการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image