โควิด ฟอรั่ม คาดได้เห็นวัคซีนรุ่นใหม่ใน 2-3 เดือน 1330 ยัน รับทุกสิทธิ ทุกสาย

โควิด ฟอรั่ม คาดได้เห็นวัคซีนรุ่นใหม่ใน 2-3 เดือน 1330 ยัน รับทุกสิทธิ ทุกสาย

เมื่อวันที่ 1 เมษายน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ กล่าวในรายการ Covid Forum ที่นี่มีคำตอบ จัดโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ถึงประเด็น “เมื่อโควิดไม่ใช่เรื่องไกลตัว ติดแล้วทำอย่างไร?”

นพ.ภานุวัฒน์กล่าวว่า สบส.มีความเกี่ยวข้องกับการดูแลโควิด-19 ในหลายบทบาท ตั้งแต่ควบคุม ป้องกัน และรักษา โดยมีกำลังจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1.05 ล้านคนทั่วประเทศ ที่เป็นกลไกสำคัญในการแนะนำประชาชนดูแลตนเอง เชิญชวนฉีดวัคซีน และการตรวจ ATK ขณะที่ด้านการรักษา สบส.ได้ดูแลเรื่องยูเซ็ป พลัส (UCEP Plus) ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล ที่ขอความร่วมมือกับสถานพยาบาล โรงพยาบาล (รพ.) เอกชน ในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภาวะฉุกเฉิน คือ ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดง และสีเขียว ที่อาการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

นพ.ภานุวัฒน์กล่าวว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์นี้ สธ.ได้เร่งรณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะการฉีดเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ โดส) ในกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้อายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคในกรณีที่มีการติดเชื้อได้ ด้านการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวทางรักษาโดยกรมการแพทย์ สำหรับผู้ติดเชื้ออาการน้อย สามารถใช้ยารักษาตามอาการได้ เนื่องจากยาบางตัวมีข้อบ่งชี้ในการใช้ แต่ยืนยันว่า ยาไม่ขาดแคลน

ADVERTISMENT

“อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยรอบด้าน ขอฝากถึงผู้ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ให้ลดความเสี่ยงของตนเองก่อนเดินทาง เลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมเสี่ยง เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อแล้วนำเชื้อไปสู่ผู้ใหญ่ที่รัก และเพื่อให้เป็นสงกรานต์ที่มีความสุขและปลอดภัย” นพ.ภานุวัฒน์กล่าวย้ำ

ADVERTISMENT

ด้าน นพ.ฆนัทกล่าวว่า ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ภาคเอกชนมีส่วนช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างมาก

“สถิติล่าสุดพบว่า การติดเชื้อในฝั่งเอเชียเริ่มแซงยุโรป อเมริกา แล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า หลังจากที่มีการติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ก็ทำให้ประชากรมีภูมิคุ้นกันมากขึ้น ตรงนี้จึงทำให้เห็นได้ว่าโควิดใกล้ตัวเรามากขึ้น เทียบเหมือนกับโรคไข้หวัด ที่เรามีโอกาสเป็นได้ทุกปี ทั้งนี้ สธ.และหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้เร่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อเนื่อง แต่ต้องเน้นย้ำว่า วัคซีนในปัจจุบันพัฒนามาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อู่ฮั่น และอยู่ระหว่างการศึกษาวัคซีนตัวใหม่ๆ คาดว่าเร็วที่สุดจะออกมาใน 2-3 เดือนนี้ ดังนั้น ระหว่างนี้แม้เราฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังต้องระวังตัวไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อเลี่ยงการเกิดอาการลองโควิด (Long Covid-19) ทั้งนี้ สมาคมสมาพันธ์ฯมีหลายโครงการช่วยเหลือช่วงโควิด-19 เช่น โควิดโฮมแคร์ (Covid-19 Home Care) เพื่อส่งชุดอุปกรณ์ดูแลตนเอง ยา และเวชภัณฑ์ให้ประชาชน” นพ.ฆนัทกล่าว

ทั้งนี้ นพ.ฆนัทกล่าวว่า สำหรับการติดต่อสายด่วน 1330 เข้าใจความร้อนใจของประชาชน แต่ด้วยอัตราสายโทรเข้าไปมาก เจ้าหน้าที่ก็อาจจะรับสายไม่ทัน แต่ต้องเรียนว่า สำหรับเชื้อโอมิครอนที่อัตราเสียชีวิตน้อยกว่าเชื้อเดลต้า ร้อยละ 1-2 เหลือ ร้อยละ 0.1-0.2 ลดลงกว่า 10 เท่า แต่การเสียชีวิตยังอยู่ในเสี่ยง 608 ดังนั้น คนส่วนใหญ่ ร้อยละ 90-95 ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ สามารถสังเกตอาการใน 48 ชั่วโมง หากอาการไม่รุนแรงเพิ่ม ก็จะมีความปลอดภัย ดังนั้น การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ด้าน น.ส.ดวงนภา พิเชษฐ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการประชาชนและคุ้มครองสิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.เป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยการปรับบทบาทสายด่วน 1330 จากเดิมที่ให้ข้อมูลการใช้สิทธิบัตรทอง แต่เมื่อมี โควิด-19 ก็เปิดเป็นสายด่วนช่วยตอบข้อมูลให้ประชาชน จองฉีดวัคซีน เมื่อมีการระบาดมากขึ้น ก็จัดระบบรักษาที่บ้าน (HI) การส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง

“ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนที่อาการไม่รุนแรง สธ.จึงมีนโยบายเจอ แจก จบ ประชาชนสามารถเดินทางไปรับยาในสถานพยาบาลตามสิทธิสุขภาพแต่ละคนได้ สายด่วนก็ให้ข้อมูลส่วนนี้กับประชาชนด้วย สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ สายด่วน 1330 ก็จะรับเรื่อง ดำเนินการติดต่อไปยังหน่วยบริการเพื่อให้เข้ารักษาในฮอสปิเทล (Hospitel) หรือศูนย์พักคอยในชุมชน (CI) อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนติดต่อสายด่วนแล้ว ก็จะส่งต่อไปยังหน่วยบริการ ที่ขั้นตอนนี้ต้องรอให้หน่วยบริการรับเรื่อง ดังนั้น ระหว่างที่รอแล้วมีอาการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น สายด่วน 1330 ได้สำรองเตียงทาง รพ.รัฐ และ รพ.เอกชน รองรับ” น.ส.ดวงนภากล่าว และว่า ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่า มีเตียงสำรองเหลือเท่าไรด้วย สำหรับช่วงสงกรานต์ มีการเตรียมระบบไว้ 2,000 คู่สาย ยืนยันว่า หากประชาชนไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ จะมีการโทรกลับแน่นอน โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารีย์ เลขาธิการ สปสช. ยืนยันนโยบายสายด่วน 1330 ว่า รับทุกสิทธิ รับทุกสาย เพื่อให้มีการสื่อสารกับประชาชนและส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยงานต่างๆ ได้

ขณะที่ นายอนุกูล ทรายเพชร ผู้อำนวยการมูลนิธิเส้นด้าย กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับ สปสช.เพื่อให้มีการพัฒนาระบบของสายด่วน 1330 พร้อมการเปิดรับอาสาสมัครรับสายพูดคุยกับผู้ป่วย ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือบางส่วน เช่น การกรอกข้อมูล เพื่อให้การส่งต่อเร็วขึ้น ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ถือเป็นระบบสาธารณสุขระบบรองอย่างมาก โดยพยายามเชื่อมโยงกับระบบหลัก ดังนั้น ที่ระบบหลักมีนโยบาย คำสั่งใหม่ออกมา ก็จะมีการปรับเปลี่ยนระบบให้สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้เชื้อโอมิครอนที่อาการไม่รุนแรง จะมีการปรับให้ระบบพร้อมช่วยเหลือประชาชน โดยเน้นการกระจายอุปกรณ์ให้ผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image