สธ.หวั่นซ้ำรอยคนเมาตีกันใน รพ.จัดกำลังรับเหตุปะทะช่วงสงกรานต์

สธ.หวั่นซ้ำรอยคนเมาตีกันใน รพ.จัดกำลังรับเหตุปะทะช่วงสงกรานต์ คาดปีนี้คนไข้ฉุกเฉินพุ่งอีก

เมื่อวันที่ 4 เมษายน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล (รพ.) รองรับเทศกาลสงกรานต์ ว่า สธ.ได้สั่งการให้หน่วยงานและ รพ. ในสังกัด สธ. สนับสนุนการทำงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ที่ส่วนกลางและจังหวัด สนับสนุนการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.
) และ รพ.สนับสนุนการทำงานของชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ฝึกทักษะการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน (EMS) ของ รพ. และเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทุกระดับ เตรียมหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินทุกระดับ รวมทั้งทางอากาศและทางเรือ จัดหน่วยกู้ชีพระดับพื้นฐาน (BLS) และหน่วยปฏิบัติการระดับสูง (ALS) ประจำบนเส้นทางถนนสายหลักที่มีจุดตรวจ/จุดบริการอยู่ห่างกันมาก เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว

“ทั้งนี้ หากเป็นการบาดเจ็บ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามข้อบ่งชี้ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือยูเซ็ป (UCEP) เข้ารับบริการ รพ.รัฐ หรือ รพ.เอกชน ที่ใกล้ที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชั่วโมงแรก” นพ.ธงชัย กล่าวและว่า ขอให้ รพ.ทุกแห่งเพิ่มจำนวนบุคลากรให้มากขึ้นจากช่วงปกติ เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู ระบบส่งต่อ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับบุคลากรและผู้ป่วยขณะนำส่ง ดำเนินการเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจได้ตามการร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยกเว้นค่าเจาะเลือดและค่านำส่ง หากส่งตัวอย่างเลือดไปศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกเขต จะได้รับการยกเว้นค่าตรวจวิเคราะห์ ประสานตำรวจตรวจตราความเรียบร้อยเป็นระยะเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาล และให้รีบแจ้งเหตุเมื่อมีผู้เข้ารับการรักษาจากเหตุทะเลาะวิวาท เพื่อส่งเจ้าหน้าที่และกำลังพลให้เพียงพอต่อการระงับเหตุและดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและญาติที่มารับบริการ ส่วนผู้ก่อเหตุให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นพ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ตั้งด่านชุมชน ด่านครอบครัว สกัดกั้นกลุ่มเสี่ยงอุบัติเหตุและคัดกรองโรคโควิด-19 พร้อมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลือกอาหารสะอาดปลอดภัยในงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ไทย กับครอบครัวและเพื่อนฝูง เน้น “กินร้อน ช้อนตนเอง ล้างมือ”

“ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ขณะที่คนส่วนใหญ่ได้หยุดอยู่กับครอบครัว บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 มีผู้บาดเจ็บเข้า รพ. เฉลี่ยวันละเกือบ 3,000 ราย ซึ่งเป็นปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติอย่างมาก คาดว่าสงกรานต์ปีนี้ จะมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นตามมา เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุ ด้วยการ ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับเจ้าหน้าที่ และท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข” นพ.ธงชัย กล่าว

Advertisement

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ความพร้อม อสม.ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” ดังนี้ 1.ร่วมตั้งด่านชุมชนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและผู้เกี่ยวข้อง เมื่อผู้ขับขี่มายังด่านชุมชน อสม.และเจ้าหน้าที่ด่านชุมชนสังเกตลักษณะทางกายภาพ มีอาการมึนเมาสุรา ขัดขืนไม่ยอมทดสอบ แจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย 2.ทดสอบผู้ขับขี่ที่สงสัยว่าดื่มแล้วขับที่อยู่ในชุมชน โดยใช้การสังเกตและประเมินอาการมึนเมาสุราเบื้องต้น คือ “แตะจมูกตัวเอง” ยืดแขนไปข้างหน้าแล้วชี้นิ้วออกไป จากนั้นให้งอศอกและเอานิ้วมาแตะที่ปลายจมูกโดยไม่ลืมตา หากแตะจมูกที่ปลายจมูกไม่ได้ แสดงว่าบุคคลนั้นน่าจะอยู่ในภาวะเมาสุรา “เดินแล้วหัน” ยืนตัวตรง เดินสลับเท้าโดยให้สันชิดปลายเท้าเป็นเส้นตรงไปข้างหน้า 9 ก้าว แล้วหันตัวด้วยเท้า 1 ข้าง จากนั้นเดินสลับเท้าแบบส้นชิดปลายอีก 9 ก้าว หากไม่สามารถเดินให้ส้นเท้าชิดปลายเท้าได้ ต้องใช้แขนช่วยพยุงหรือล้มเซ แสดงว่าบุคคลนั้นน่าจะอยู่ในภาวะมึนเมาสุรา และ “ยืนขาเดียว” ให้บุคคลนั้นยืนตัวตรง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นจากพื้น 15 เซนติเมตร เริ่มนับ “1000, 1001, 1002… จนกว่าจะครบ 30 วินาที หากตัวเซ วางเท้าลง เขย่ง หรือใช้แขนทรงตัวแสดงว่าบุคคลนั้นน่าจะอยู่ในสภาวะมึนเมาสุรา ทั้งนี้ หากพบมีอาการมึนเมา ให้นั่งพัก ประเมินซ้ำทุก 30 นาที หากไม่มีอาการมึนเมาสุรา ให้กลับบ้านได้ หากพบมีอาการมึนเมาสุรา แจ้งญาติหรือเพื่อนมารับกลับบ้าน

 

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image