เร่งเครื่องส่งแรงงานไปซาอุฯ ก.แรงงาน ถก ศอ.บต. เล็งคนมีฝีมือจากพื้นที่ จว.ชายแดนใต้
วันนี้ (8 เมษายน) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ลงพื้นที่ร่วมประชุมร่วมกับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยผู้นำแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา หารือเพื่อเตรียมการจัดส่งแรงงานไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย
นางเธียรรัตน์เปิดเผยว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงนามความตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ด้านแรงงานกับ นายอะห์หมัด บิน สุไลมาน อัลรอยิฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2 ฉบับ ทั้งการจัดหาแรงงานทั่วไปและแรงงานในบ้าน ระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุฯเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ซาอุฯมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะฝีมือในสาขาช่างฝีมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ
“ในวันนี้ กระทรวงแรงงานได้รับการประสานจาก ศอ.บต. หารือในการเตรียมความพร้อมของแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะจัดส่งไปทำงานในซาอุฯ” นางเธียรรัตน์กล่าว
ด้าน นายไพโรจน์กล่าวว่า คนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องลงทะเบียนกับศูนย์ทะเบียนคนหางาน ไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลคนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยคนหางานต้องแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น ประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปทำงาน ตำแหน่งงานที่ต้องการทำ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ เป็นต้น โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ (e-Service) ทางเว็บไซต์ http://toea.doe.go.th หรือโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2
ขณะที่ นายประทีปกล่าวถึงการหารือกับ ศอ.บต.และผู้นำแรงงานว่า ในวันนี้เพื่อรับทราบข้อมูลแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ผู้ที่ประสงค์จะไปทำงานส่วนใหญ่มีทักษะฝีมือความถนัดด้านใดบ้าง สอดคล้องกับความต้องการของซาอุฯหรือไม่
“หากทักษะฝีมือไม่ตรงกับความต้องการ ก็จะมีการ Up-Skill/Re-Skill ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่ง กพร.ได้เตรียมการด้านหลักสูตรฝึกอบรม สถานที่เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์การฝึกอบรม โดยเฉพาะหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือภาษาอาหรับ นวดแผนไทย นวดสปา การประกอบอาหาร ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อม ทั้งนี้ การฝึกอบรมจะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ตลอดจนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ก่อนไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทนที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม เน้นบูรณาการข้อมูลความต้องการตำแหน่งงานกับ กกจ. เพื่อดำเนินการฝึกได้ตรงกับความต้องการของนายจ้างในต่างประเทศ โดยผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมหรือทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1506 กด 4 หรือสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ” นายประทีปกล่าว
พล.ร.ต.สมเกียรติกล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความสนใจไปทำงานในซาอุฯ พบว่า มีกลุ่มแรงงานไทยที่เคยอาศัยหรือทำงานในซาอุฯ และได้เดินทางกลับภูมิลำเนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 899 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาจากประเทศแถบตะวันออกลาง 70 คน กลุ่มนักศึกษาที่จบการศึกษาสาขาภาษาอาหรับในประเทศไทย 1,375 คน กลุ่มแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 12,605 คน กลุ่มนักศึกษาที่ผ่านการฝึกทักษะอาชีพจากศูนย์ฝึกอาชีพพระราชทานจังหวัดชายแดนภาคใต้ 65 คน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์ไปทำงานในซาอุฯ 37 คน
