สปสช.ย้ำ! สิทธิบัตรทองเดินทางสงกรานต์ เจ็บป่วยฉุกเฉินพร้อมดูแล

สปสช.ย้ำ! สิทธิบัตรทองเดินทางสงกรานต์ เจ็บป่วยฉุกเฉินพร้อมดูแล

วันนี้ (11 เมษายน 2565) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ที่มีวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2565 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดหรือไปเยี่ยมครอบครัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงสั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) ในการเข้ารับบริการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

1.กรณีเจ็บป่วยระดับฉุกเฉินวิกฤต หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP) หรือยูเซ็ป ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช.ตามอัตราที่กำหนด

2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ระดับฉุกเฉินวิกฤต หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น สามารถเข้ารับบริการ ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ หรือ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายยกระดับบัตรทอง ที่ได้ขยายบริการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในระบบบัตรทองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเหมือนในอดีต

นพ.จเด็จกล่าวว่า ในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 และอยู่นอกพื้นที่หน่วยบริการประจำนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงโดยอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว สามารถใช้สิทธิยูเซ็ป พลัส (UCEP Plus) เพื่อเข้ารับการรักษาใน รพ.ที่อยู่ใกล้ได้ และในกรณีที่มีอาการไม่มาก เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียวก็สามารถเข้ารับบริการ ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ในหน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ตามนโยบาย สธ. ซึ่งนอกจากบริการที่ รพ.แล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการนี้ได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมได้เช่นกัน

Advertisement

“การเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในช่วงของการเดินทางอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการใช้สิทธิบัตรทอง นอกจากเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับบริการหากมีเหตุจำเป็น เพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วย” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

นพ.จเด็จกล่าวว่า ด้วยโรคโควิด-19 ขณะนี้ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก รวมถึงผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากการคาดการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์นี้ ดังนั้น ขอประชาชนลดการเดินทางไปต่างจังหวัด ขอให้เป็นผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมกันนี้ให้ระมัดระวังดูแลและป้องกันตนเองและคนที่เรารัก ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของ สธ.อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่อย่างน้อย 30 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ การลดความเสี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และการเว้นระยะห่าง เป็นต้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงได้อยู่ที่ความร่วมมือของคนไทยทุกคน

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image