จพ.สาธารณสุขกว่า 1 หมื่นคน ทวง สธ.ขอปรับตำแหน่งสายงาน-ความก้าวหน้าวิชาชีพ
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มข้าราชการเจ้าพนักงานสาธารณสุข 11 สายงาน ที่มีวุฒิปริญญาตรีขอปรับสายงาน และบุคลากรที่เรียกร้องขอบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบที่ 2 รวมตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดการดำเนินงานและพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนนั้น
ล่าสุดวันที่ 26 เมษายน กลุ่มเจ้าพนักงานสาธารณสุข 11 สายงาน ที่มีวุฒิปริญญาตรี และกลุ่มบุคลากรเรียกร้องการบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบที่ 2 ได้เดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล จากนั้น เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว และได้เดินมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอบคุณการผลักดันเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ส.เรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. และ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ รับเรื่องดังกล่าวแทน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ.
นายจิรวัฒน์ วรธรรมาทิพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผอ.รพ.สต.) อยู่เจริญ จ.สมุทรปราการ ในฐานผู้แทนเจ้าพนักงานสาธารณสุขวุฒิปริญญาตรี กล่าวว่า วันนี้ข้าราชการเจ้าพนักงานสาธารณสุข 11 สายงาน ประกอบด้วย จพ.สาธารณสุข จพ.ทันตสาธารณสุข จพ.พนักงานเภสัชกรรม จพ.เวชสถิติ จพ.วิทยาศาสตร์การแพทย์ จพ.เวชกิจฉุกเฉิน จพ.โสตทัศนศึกษา จพ.เวชกรรมฟื้นฟู จพ.ธุรการ จพ.การเงินและบัญชี และ จพ.พัสดุ รวมตัวกันเพื่อมาติดตามการทำงานปรับสายงานทั่วไปเป็นสายงานวิชาการกับทาง ก.พ. และช่วงเช้าวันนี้ (26 เมษายน 2565) ได้เดินทางเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้เร่งรัดเรื่องนี้
“เจ้าพนักงานสาธารณสุขฯ เป็นหนึ่งในบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าที่ทำงานโควิด-19 มาตั้งแต่ต้น และจากนโยบายการสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรคนทำงาน ที่ผ่านมา มีเรื่องการบรรจุข้าราชการโควิด-19 แต่พวกเราเป็นข้าราชการ และทำงานมานาน จึงขอสิทธิเพื่อให้ได้รับความเกื้อกูลดังกล่าวผ่านการปรับสายงานครั้งนี้ ที่ผ่านมา สธ.ได้ผลักดันและขับเคลื่อนเรื่องนี้เพื่อให้ปรับสายงานเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งขณะนี้เรื่องส่งถึงขั้น ก.พ. แล้วกว่า 3 เดือน แต่ปรากฎยังไม่คืบหน้า พวกเราจึงขอทาง สธ. ช่วยทำหนังสือเร่งรัดเรื่องนี้อีกครั้ง” นายจิรวัฒน์ กล่าว
นางสมถวิล บ่ายกระโทก ผอ.รพ.สต.ขี้ตุ่น จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขอความเมตตา สธ.ให้ของขวัญชิ้นโบว์แดงแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติโควิด-19 ได้ปรับสายงาน โดยขอให้ปรับเป็นกรณีพิเศษภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปฏิบัติงานเต็มความสามารถในภาวะโควิด-19 มาตลอด จึงขอความเมตตาครั้งนี้ ซึ่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขมี 11 สายงาน มีประมาณ 1 หมื่นกว่าคน จึงขอให้ปรับสายงานพวกตน และตรงนี้ไม่ได้กระทบงบประมาณ เพราะใช้ตำแหน่งเดิม สายงานเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับสายงานครั้งนี้จะส่งผลดีหรือสร้างขวัญกำลังใจอย่างไร นางสมถวิล กล่าวว่า พวกตนเป็นด่านหน้าในการปฏิบัติงานโควิด ทั้งการตรวจค้นหาผู้ป่วย สวอป (Swab) การส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์พักคอยชุมชน (CI) และโรงพยาบาล (รพ.) และยังทำระบบรักษาที่บ้าน (HI) มีการติดตามผู้ป่วย ซึ่งเรามีหน้าที่ในเรื่องโควิด-19 มาตลอด อย่างไรก็ตาม การปรับจากแท่งทั่วไปเป็นแท่งวิชาการนั้น จะส่งผลให้พวกตนก้าวหน้ามายิ่งขึ้น เมื่อไปแท่งวิชาการหรือสายงานประเภทวิชาการแล้วนั้น ก็สามารถเป็นระดับ 7 และ 8 ได้ และสามารถมีเงินประจำตำแหน่ง เป็นความก้าวหน้าในสายงาน
ขณะที่ น.ส.เรวดี กล่าวว่า ที่ผ่านมา รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ได้เข้าใจถึงภาระงานของบุคลากร มีนโยบายสร้างขวัญกำลังใจ มีการยื่นขอบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบที่ 2ตอนนี้ยื่นเรื่องไป ก.พ. แล้ว รวมไปถึงเรื่องการปรับสายงานก็เช่นกัน ซึ่งนายอนุทินได้ให้ทีมที่ทำงานเรื่องนี้ติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด
“โดยทางบุคลากรขอให้เรารับปากว่า จะสามารถเดินเรื่องนี้ได้เร็วที่สุดเมื่อไร ไม่ใช่ว่าไม่อยากรับปากว่า จะแล้วเสร็จเมื่อไร แต่ทั้งนี้ ต้องดูระเบียบจาก ก.พ.ก่อน จริงๆ หากเป็นอำนาจรัฐมนตรีว่าการ สธ.อยากให้หมด แต่อันนี้ไม่ใช่ และทุกครั้งที่ท่านลงพื้นที่ ท่านนึกถึงสีฟ้าตลอดว่า เป็นกำลังสำคัญที่สุดเรื่องโควิด-19” น.ส.เรวดี กล่าว
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กล่าวระหว่างรับเรื่องว่า เข้าใจการทำงานของบุคลากรสาธารณสุขเป็นอย่างดีที่ต้องทำงานหนักมากที่สุด ดังนั้น อะไรที่ สธ. จะดำเนินการได้ อย่างเรื่องการสร้างขวัญกำลังใจ ก็มีการขับเคลื่อนมาตลอด โดยหลักการสิ่งที่ทำอยู่เป็นหลักการที่เป็นไปได้ และเราพยายามอย่างดีที่สุด พวกเราเล็งเห็นพวกท่านเหมือนครอบครัว และจะมีการประสานงานติดตามเรื่องนี้ต่อไป
