รมว.สุชาติ ห่วงสาวไทยถูกหลอกที่ดูไบ สั่งทูตแรงงานประสานกงสุลใหญ่พากลับบ้าน

รมว.สุชาติ ห่วงสาวไทยถูกหลอกที่ดูไบ สั่งทูตแรงงานประสานกงสุลใหญ่พากลับบ้าน

วันนี้ (28 เมษายน 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ว่า ให้ช่วยเหลือแรงงานไทยในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ถูกนายหน้าหลอก อ้างว่าจะชวนไปทำงานร้านนวด แต่ถูกหลอกไปค้าประเวณี พร้อมขู่หากไม่รับงานจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าจี้ตามร่างกาย จึงร้องขอความช่วยเหลือให้ประสานกลับประเทศไทย ซึ่งในเรื่องนี้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นพลังสำคัญในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวและนำเงินเข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลความเป็นอยู่และช่วยเหลือกรณีได้รับความเดือดร้อนในการไปทำงานต่างประเทศ

นายสุชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ลัดดาวัลย์ สิงห์งอย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของ น.ส.ทัศนี สิงห์งอย อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครพนม ได้รับข้อมูลจากอาว่า นายหน้าชักชวนไปทำงานร้านนวดแผนไทยที่นครดูไบ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 แต่ถูกหลอกให้ไปค้าประเวณีถูกกักขังไม่ให้ไปไหน ถ้าไม่ทำงานหรือไม่รับงานต้องโดนทำร้ายร่างกายโดนบุหรี่ไฟฟ้าจี้ ซึ่งมีคนไทยติดไปด้วยกัน 2 คน ทราบชื่อ คือ น.ส.สุรีพร พลเยี่ยม มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด และ น.ส.ศศิตาภรณ์ วัฒนศรี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถูกนายจ้างยึดเอกสารพาสปอร์ตไว้ทั้งหมด และถูกกักขังไม่สามารถไปไหนได้ในเขต Ajman เงินทองไม่มี บังคับทำงานไม่ให้เงิน และวีซ่าของ น.ส.ทัศนี สิงห์งอย จะหมดในวันที่ 30 เมษายน 2565

“จากข้อมูลของ น.ส.ลัดดาวัลย์ ยังระบุอีกว่า น.ส.ทัศนีได้เดินเรื่องไปที่สถานทูตดูไบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2565 แต่ขณะนี้นี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเรื่องสิทธิประโยชน์และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพากลับไทยด้วย” นายสุชาติ กล่าว

นอกจากนี้ นายสุชาติ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงแรงงาน ฝ่ายแรงงานฯ ณ กรุงอาบูดาบี ได้ประสานข้อมูลกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครดูไบ เพื่ออำนวยความสะดวกดูแลแรงงานไทย ซึ่งขณะนี้ทราบว่า แรงงานไทยได้ออกมาพักอยู่ที่ VIP Massage Center แล้ว จากนั้นฝ่ายแรงงานฯ จะให้ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อนำหลักฐานการแจ้งความหนังสือเดินทางหายมาขอทำหนังสือเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Passport) และซื้อตั๋วเพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ประสานสำนักงานแรงงานจังหวัดในพื้นที่ได้ออกไปเยี่ยมบ้านของแรงงานเพื่อแจ้งความคืบหน้าการช่วยเหลือให้ญาติทราบแล้ว

Advertisement

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางาน (กกจ.) จัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง

“จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ โดยสามารถศึกษาข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas ลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th เมื่อประสบปัญหาจากการสมัครงาน หรือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กกจ. หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัด ทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนโทร.1694” นายสุชาติ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image