สธ.หนุน รพ.เอกชน/คลินิกทั่วประเทศ ใช้ยาสมเหตุผล ลดปัญหาเชื้อดื้อยา

สธ.หนุน รพ.เอกชน/คลินิกทั่วประเทศ ใช้ยาสมเหตุผล ลดปัญหาเชื้อดื้อยา

วันนี้ (28 เมษายน 2565) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ด้านการใช้ยาสมเหตุผลในสถานพยาบาลเอกชน ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บุคลากรด้านสาธารณสุขจากส่วนกลาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โรงพยาบาล (รพ.) เอกชน และคลินิก เข้าร่วมประชุมทั้งแบบออนไซต์ และ ออนไลน์

นายสาธิต กล่าวว่า การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU) ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของ สธ.เพื่อลดการเกิดปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญ และช่วยลดการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา รวมถึงลดการสูญเสียทรัพยากรและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น โดยปัจจุบันยังคงพบการใช้ยาที่ไม่สมเหตุผลเกิดขึ้นในสถานพยาบาล อาทิ การบริโภคยาปฏิชีวนะรักษาโรคหวัดซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส การใช้ยาซ้ำซ้อนหรือมากเกินความจำเป็น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากสถานพยาบาลภาครัฐ รวมถึง รพ.เอกชน และคลินิกที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ กว่า 30,000 แห่ง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการใช้ยาสมเหตุผลให้เกิดขึ้นเป็นระบบงานประจำ ซึ่งจะส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดและผู้ป่วยมีความปลอดภัยจากการใช้ยา

Advertisement

นายสาธิต กล่าวว่า สธ.ได้ออกประกาศ เรื่อง มาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลเกี่ยวกับฉลากบรรจุยา พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง จะต้องจัดทำฉลากบรรจุยาให้มีรายละเอียดตรงตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด อาทิ มีการแสดงชื่อสถานพยาบาล ชื่อผู้ป่วย ชื่อสามัญหรือชื่อทางการค้าของยาเป็นภาษาไทย รูปแบบของยา ความแรง จำนวนยาที่จ่ายให้ผู้ป่วย วิธีการใช้ยา สรรพคุณ คำเตือน หรือข้อระวัง หรือข้อห้ามใช้ และวันหมดอายุของยา เป็นต้น โดยประกาศฯ ดังกล่าวกำหนดให้ รพ.เอกชน ที่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้ ต้องจัดทำฉลากยาให้มีรายละเอียดถูกต้องตามที่กำหนด ภายใน 1 ปี ส่วนคลินิกที่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 2 ปี เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับทราบข้อมูลบนฉลากบรรจุยาตามสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้ยา

ด้าน นพ.ธเรศ กล่าวว่า สบส.จะร่วมกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ และ สสจ. ผลักดันให้สถานพยาบาลเอกชนเข้าถึงแนวทางการพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการใช้ยาสมเหตุผล รวมถึงประเมินตนเองด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลผ่านระบบออนไลน์ด้วย สำหรับการประชุมฯ ครั้งนี้ นับเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับสถานพยาบาลเอกชนและคลินิกทั่วประเทศ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการใช้ยาสมเหตุผล และการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพ มาร่วมสร้างความตระหนักรู้และความตื่นตัวให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งนี้ หากสถานพยาบาลทุกแห่งนำความรู้ที่ได้ไปใช้ จะช่วยยกระดับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านยาของสถานพยาบาล ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยา ลดการสูญเสียทรัพยากร และสูญเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image