อนุทิน ยันเร่งนำโควิดเข้าโรคประจำถิ่น ช่วยผู้ใช้แรงงาน พลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

อนุทิน ยันเร่งนำโควิดเข้าโรคประจำถิ่น ช่วยผู้ใช้แรงงาน พลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

วันนี้ (1 พฤษภาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2565 ว่า แรงงานถือเป็นกระดูกสันหลังของการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลจึงได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันแรงงานแห่งชาติ” เพื่อเป็นการเชิดชูศักดิ์ศรีของผู้ใช้แรงงาน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านสาธารณสุข ด้านคมนาคม ด้านกีฬาและการท่องเที่ยว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องต่อคุณภาพชีวิตและสวัสดิภาพของพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ต่อเนื่องมากว่า 2 ปี จะดำเนินการเพื่อทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนสถานะโรคระบาดโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น เพื่อส่งผลให้ผู้ประกอบการและสภาพเศรษฐกิจได้พลิกฟื้นกลับมาอย่างเต็มที่

“เพราะนอกจากประเทศไทยจะมีความมั่นคงทางสาธารณสุขเป็นลำดับต้นๆ ของโลกแล้วนั้น แรงงานไทยยังมีความพร้อมและมีต้นทุนทางศักยภาพและวัฒนธรรมแห่งจิตใจบริการที่มีอยู่อย่างโดดเด่น เป็นโอกาสทางธุรกิจมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในเร็วๆ นี้ ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน เป็นจุดหมายของอุตสาหกรรมในการจัดประชุมและนิทรรศการ และเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลด้านสุขภาพอย่างครบวงจร นับว่าเป็นการสร้างโอกาส สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้
ทุกฝ่ายได้ขานรับนโยบายไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดความพร้อมในทุกๆ ด้าน และสามารถดำเนินการได้ทันที” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อประชาชนทั้งด้านสุขภาพ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต รวมทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่นำมาสู่ภาวะหนี้สินสะสมจนเกิดความเครียด ซึมเศร้า หรือภาวะฆ่าตัวตายในบางรายที่ไม่สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ ซึ่งวัยแรงงานในปัจจุบันจัดเป็นกลุ่ม แซนด์วิช เจเนอเรชั่น (sandwich generation) คือ ต้องเผชิญหน้าและแบกรับปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมทั้งของตนเองและครอบครัว ซึ่งช่องทางความช่วยเหลือที่จะเข้าถึงกลุ่มวัยแรงงานที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาวะทางการเงิน ยังมีน้อยมาก และหากแก้ปัญหาไม่ครอบคลุมรอบด้าน ก็บั่นทอนความสุขของแรงงานและครอบครัว

“กรมสุขภาพจิตจึงประสานความร่วมมือกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) และธนาคารแห่งประเทศไทย พัฒนา เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาสุขภาพแบบองค์รวม ขึ้นเพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้และทักษะในการดูแลให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกาย ใจ และการเงิน เพื่อช่วยเหลือแรงงานในสถานประกอบกิจการ โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการจัดอบรมให้กับเครือข่ายนักทรัพยากรบุคคลในสถานประกอบการต้นแบบ
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมทั้งยังมีแผนการที่จะขยายผลการดำเนินงานไปยัง 7 เขตสุขภาพทั่วประเทศ เพื่อให้แรงงานไทยได้เข้าถึงการดูแลมากขึ้น” พญ.อัมพร กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image