รองปลัด กทม. กำชับเทศกิจวางตัวเป็นกลางจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ-ส.ก.
วันนี้ (2 พฤษภาคม) นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจเขต ครั้งที่ 5/2565 ที่สำนักเทศกิจว่า ในที่ประชุม สำนักเทศกิจรายงานว่า กทม. โดยสำนักเทศกิจได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ระหว่าง กทม.และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 เพื่อบูรณาการ การปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นแบบแผน พัฒนาความร่วมมือด้านการให้บริการสาธารณะ เสริมสร้างความรู้ เพิ่มพูนทักษะให้กับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกันในการจัดระเบียบ ดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมืองตลอดจนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
“และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ลงนามเอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและการแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน ระหว่าง กทม.กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานในสังกัด กทม. มีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของประชาชนให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการ โดยการมอบนโยบาย กำหนดแผนหรือโครงการที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ ในการปลอดอาชญากรรม ยาเสพติด เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในเขตกรุงเทพฯอย่างยั่งยืน และผลักดันการดำเนินการเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและสร้างความตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการก่ออาชญากรรมในทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์การป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ” นายณรงค์กล่าว
รองปลัด กทม.กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการตรวจตราคลองสายหลักที่ได้รับการปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจและสำนักงานเขตออกตรวจคลองเป้าหมาย จำนวน 39 คลอง พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยบริเวณริมคลองและสัญจรผ่านไป-มาบริเวณริมคลอง ไม่ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงคลอง โดยในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ได้จัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนบริเวณริมคลองครอบคลุมพื้นที่ 50 สำนักงานเขต โดยกำหนดให้ทำแบบสำรวจจำนวน 50 ชุดต่อคลอง รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,950 ชุด ซึ่งขณะนี้การสำรวจใกล้แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างประมวลผลการสำรวจความพึงพอใจเพื่อสรุปรายงาน
“ส่วนการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2561-วันที่ 22 เมษายน 2565 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 41,175 ราย ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย ดำเนินคดี 37,345 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 45,152,500 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-22 เมษายน 2565 เทศกิจเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 131 ราย แยกเป็น ประชาชนทั่วไป 116 ราย วินจักรยานยนต์รับจ้าง 14 ราย ผู้ให้บริการแกร็บ 1 ราย ปรับเป็นเงิน 184,800 บาท” นายณรงค์กล่าว และว่า ทั้งนี้ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันสถานประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดดำเนินการได้ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมความพร้อมสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่อาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและกระทบต่อประชาชน ส่วนนโยบายการจัดระเบียบเมืองด้านอื่นๆ ให้กวดขันอย่างต่อเนื่องด้วย
