เลขาฯ อย.แจงปมทดลองวัคซีนโควิดในไทย ชี้จอห์นสันฯ ขึ้นทะเบียนแล้วทำได้ตามขั้นตอน

เลขาฯ อย.แจงปมทดลองวัคซีนโควิดในไทย ชี้จอห์นสันฯ ขึ้นทะเบียนแล้วทำได้ตามขั้นตอน

ความคืบหน้ากรณีที่มีรายงานข่าวหญิงวัย 35 ปี จ.กาญจนบุรี ได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อหนึ่ง โดยมีผื่นและหนองขึ้นที่ผิวหนังและอยู่ระหว่างการรักษา พร้อมทั้งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ นั้น

ล่าสุด เวลา 17.45 น. วันนี้ (17 พฤษภาคม 2565) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เรื่องของการศึกษาวิจัยวัคซีน หรือยาในประเทศไทย หรือในคนไทยนั้น หากเป็นผลิตภัณฑ์ยาหรือวัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขึ้นทะเบียนแล้ว ก็สามารถนำเข้ามาเพื่อศึกษาวิจัยได้โดยจะต้องผ่านคณะกรรมการจริยธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในกรณีวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นั้น จากการตรวจสอบทราบว่า ทางคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศ.พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน หัวหน้าหน่วยวิจัยโรคติดเชื้อทางคลินิก และรักษาการหัวหน้าศูนย์ทดสอบวัคซีน ได้ทำโครงการทดสอบวัคซีนจอนห์สันฯ ไปเมื่อเดือนมกราคม 2565

“ทั้งนี้ วัคซีนจอนห์สันฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.ไปเมื่อปี 2564 แบบอนุญาตใช้ในภาวะฉุกเฉิน และต่ออายุวัคซีนแล้ว จึงสามารถทดสอบได้ตามโปโตคอล” นพ.ไพศาล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีการศึกษาวิจัยวัคซีน ประชาชนจะทราบได้อย่างไรว่า เป็นการศึกษาวิจัยจริงๆ นพ.ไพศาล กล่าวว่า ประชาชนสามารถดูได้จากข้อมูลและหนังสือสัญญาก่อนยินยอมเป็นอาสาสมัครในโครงการวิจัยนั้นๆ ซึ่งจะมีข้อมูลรายละเอียดของผู้ศึกษาวิจัยและหน่วยงานวิจัย รวมถึงการประกันสุขภาพกรณีที่มีผลกระทบหลังจากการศึกษาวิจัยด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image