อนุทิน เผยผับ บาร์ เปิดได้ มิ.ย.นี้ ยันอาวุธสู้โควิดคือ ความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย ในงานเสวนาหัวข้อ “คุณภาพชีวิตยุคใหม่ ดูแลทุกวัยยกระดับสวัสดิการ” ในงาน “Better Thailand open Dialoge: ถามมา-ตอบไปเพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ว่า เราเข้าสู่การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปีที่ 3 ซึ่งช่วงแรกทราบเพียงว่า เป็นไวรัสที่มีหนาม มาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ สธ.ได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถอดรหัสพันธุกรรมได้ ทำให้นำมาสู่การผลิตน้ำยาตรวจหาเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตรวจจับหาผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนรายแรกได้
นายอนุทินกล่าวว่า ตนเข้ามาบริหาร สธ. มีความมั่นใจได้คือ ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยว่ามีความแข็งแกร่ง ซึ่งขอให้มั่นใจว่าความเข้มแข็งนั้น ไม่ได้ดูแค่มิติเดียวในเรื่องของการแพทย์สาธารณสุขเท่านั้น แต่คำนึงถึงมิติทางด้านเศรษฐกิจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้เอาโควิด-19 เป็นศูนย์กลาง
“เราให้ความสำคัญว่า เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดผลกระทบน้อยที่สุด และจะทำอย่างไรเพื่อกำจัดโรคระบาดให้เร็วที่สุด หากกำจัดไม่ได้จะอยู่กับโรคระบาดนี้ได้อย่างไรโดยให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งมาตรการที่ออกมาในบางช่วงอาจจะมาก แต่ถึงเวลาที่ผ่อนคลายสถานการณ์ได้เราก็ผ่อนคลายทันที โดยยึดหลักวิทยาศาสตร์ มีการระดมสมองทุกวัน หายาเวชภัณฑ์ต่างๆ เข้ามาทำให้ไม่เกิดการขาดแคลน แม้จะมีการปริ่มๆ บ้างในบางช่วงของการระบาด สิ่งที่ทำให้งานของเราสำเร็จ ไม่กดดันมากจนระบบพังทลาย คือ ความร่วมมือของประชาชน ทั้งในรูปแบบของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอยู่นับล้านคนทั่วประเทศ ที่สำคัญคือ ประชาชนทั้งประเทศให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมืออยู่ตลอดเวลา ตระหนักในวิธีปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุขในช่วงที่มีการระบาดของโร” นายอนุทินกล่าว
รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า วันนี้ กรณีที่มีรายงานการติดเชื้ออยู่นั้น เป็นเพราะเราผ่อนคลายมาตรการ เนื่องจากตัวเชื้อมีการลดความรุนแรงลง ประกอบกับมีการฉีดวัคซีน มีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข ยามีเพียงพอ สถานพยาบาลเพียงพอ หมอมีประสบการณ์
“วันนี้มั่นใจ เราพร้อมที่จะเปิดประเทศแล้ว แพทย์ก็มีความมั่นใจ กรณีมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผมขอว่าเรื่องผับ บาร์ คาราโอเกะ สามารถเปิดได้ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ แม้เรามีความมั่นใจในระบบ แต่ไม่ใช่จะเอาใจประชาชนอย่างเดียว แต่ต้องทำควบคู่ระหว่างเศรษฐกิจและสุขภาพประชาชนให้มีความปลอดภัย แต่ทางทีมแพทย์ระบุว่าสามารถเปิดได้เลย” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวอีกว่า การจัดการโรคโควิด-19 พิสูจน์ให้เห็นถึงการบูรณาการของพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่ได้คำนึงว่าประโยชน์จะตกอยู่กับพรรคใดหรือคนใด เรามองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งขณะนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้
“โฟกัสอย่าให้คนป่วยหนักและเสียชีวิต ส่วนการเดินหน้าอนาคตนั้น เมื่อก่อนเรามองว่าโควิด-19 เอาอะไรไปจากเรา แต่ตอนนี้ ต้องมองว่าเราจะเอาอะไรกลับคืนมาจากโควิด-19 ให้ประชาชน คือสิ่งที่สาธารณสุขจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าการจัดอันดับของสถาบันใด ประเทศไทยไม่เคยหลุดจากท็อปเท็นของโลกในการบริหารจัดการระบบสาธารณสุข แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ในระดับที่ไปนอนโรงพยาบาล (รพ.) แล้วเหมือนนอนในโรงแรม แต่เป็นการเข้าถึงระบบสาธารณสุข มีหมอ มียา มีเตียง มีองค์ความรู้ มีประสบการณ์ ทำให้เราดูแลประชาชนได้ ทั้งยังมีระบบหลักประกันสุขภาพที่พัฒนามาต่อเนื่อง 20 ปี มีความมั่นคงด้านสุขภาพ จากนี้ สธ.จะใช้สโลแกน Health for Wealth พัฒนาให้แข็งแรงทุกมิติ เมื่อสุขภาพดี เศรษฐกิจก็จะดี สังคมจะดี เรามีซอฟต์เพาเวอร์มากมาย สามารถครีเอต ไฮยีน แฟกเตอร์ เรื่องสุขอนามัย ประเทศไทยต้องมีให้ครบ ความเชื่อมั่นทั้งคนไทยและต่างชาติ ก็จะกล้ามาลงทุน กล้ามาท่องเที่ยว” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า เราผ่านเมดิคัลฮับแล้ว จ.ภูเก็ต เป็นศูนย์ขนาดใหญ่ก็จะขยายตัวได้ รับโอกาสทางธุรกิจเรื่องสุขภาพเข้ามามากมาย และกัญชาสิ่งที่เคยคิดว่าไม่ดี
“วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติขยายทั้งเรื่องอุตสาหกรรม อาหาร สุขภาพ ผลิตภัณฑ์แตกแขนงมากมาย เราใช้ซอฟต์เพาเวอร์พัฒนาสิ่งที่มีในประเทศให้เดินได้ในเวทีโลก สธ.ต้องทำเทเลเมดิซีน สัญญาณต้องแข็งแรงมาก หมอสามารถส่องผู้ป่วยห่างไกลบนดอย แล้ววิเคราะห์โรค ใช้การรักษาดูแลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสุขภาวะที่ดี เศรษฐกิจดี ประเทศไทยจะแข็งแรง เป็น Best Thailand ไม่ใช่แค่ Better Thailand” นายอนุทินกล่าว
