ไทย-เมียนมา กระชับสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจกระบวนการจ้างแรงงานต่างชาติ

ไทย-เมียนมา กระชับสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจกระบวนการจ้างแรงงานต่างชาติ

วันนี้ (24 พฤษภาคม) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประชุมระดับวิชาการไทย-เมียนมา เกี่ยวกับการบริหารจัดการแรงงานเมียนมาในประเทศไทย ร่วมกับ นายมอง มอง ตาน (U Maung Maung Than) อธิบดีกรมแรงงาน กระทรวงแรงงาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

นายไพโรจน์กล่าวว่า รัฐบาลไทยและรัฐบาลเมียนมา มีความสัมพันธ์อันดี และมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านแรงงานที่มีการหารือร่วมกันในทุกระยะ เพื่อสร้างความมั่นใจในกระบวนการจ้างแรงงานที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการปรับมาตรการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่ประสงค์ให้แรงงานที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในประเทศไทยต้องดำเนินการตามขั้นตอน และระยะเวลาที่กำหนด

 

Advertisement

“ที่ประชุมได้หารือร่วมกันใน 11 ประเด็น ครอบคลุมการบริหารจัดการแรงงานเมียนมาในประเทศไทย และที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อนำเข้าแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมามาทำงาน ตามเอ็มโอยู (MOU) และการนำเข้ามาทำงานบริเวณชายแดนในลักษณะไป-กลับ หรือตามฤดูกาล ตามมาตรา 64 โดยทางการเมียนมามีความห่วงใยแรงงานชาวเมียนมาที่อาจมาดำเนินการ ณ ศูนย์ CI ไม่ทันภายในกำหนด เนื่องจากศูนย์ CI สามารถให้บริการได้วันละ 650 คน ซึ่งทางการไทย โดยกระทรวงแรงงาน จะช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสาร เร่งรัดนายจ้างที่จ้างงานแรงงานสัญชาติเมียนมาให้เข้ามาดำเนินการ ณ ศูนย์ CI ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความแออัดในช่วงวันท้ายๆ ของการดำเนินการ ทั้งนี้ ทางฝ่ายไทยเชื่อมั่นว่าการประชุมหารืออย่างสร้างสรรค์และมีไมตรีจิตในครั้งนี้ จะเป็นนิมิตหมายที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านแรงงานอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายไพโรจน์กล่าว

ด้านนายมอง มอง ตาน กล่าวว่า ขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เห็นถึงความสำคัญและผลักดันการปรับลดค่าธรรมเนียมตรวจลงตราวีซ่า (Visa) จนที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 มีมติเห็นชอบปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา จาก 2,000 บาท เหลือ 500 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image